One Ride One Ride 2021 Royal Enfield กิจกรรม รอยัล เอนฟิลด์

Royal Enfield One Ride 2021 ครั้งที่ 10 ออกทริปสองล้อทั่วโลกอย่างยิ่งใหญ่

Royal Enfield One Ride 2021 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Leave Every Place Better กระตุ้นส่งเสริมให้กลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เดินทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

Home / PR NEWS / Royal Enfield One Ride 2021 ครั้งที่ 10 ออกทริปสองล้อทั่วโลกอย่างยิ่งใหญ่

Royal Enfield แบรนด์รถจักรยานยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก จัด One Ride กิจกรรมขับขี่พร้อมกันทั่วโลก ขึ้นเป็นครั้งที่ 10 ใน 35 ประเทศทั่วโลก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา โดยมีนางสุจิตรา ดูไร เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย ให้เกียรติมาโบกธงเป็นสัญญาณให้เริ่มกิจกรรมอย่างเป็นทางการ และมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดกว่า 500 คนทั่วประเทศ

Royal Enfield One Ride 2021

ทั้งนี้ One Ride เป็นกิจกรรมขับขี่แบบหนึ่งวันที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเชิญชวนให้ผู้ที่หลงใหลในการขับขี่รถจักรยานยนต์ และผู้ที่ขับขี่รอยัล เอนฟิลด์ทั่วโลกออกมาร่วมขับขี่ด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อเฉลิมฉลองจิตวิญญาณของการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่แท้จริง และมิตรภาพระหว่างผู้ขับขี่รอยัล เอนฟิลด์ (การจัดกิจกรรมเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติ รวมถึงคำสั่งป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเคร่งครัด)

Royal Enfield ยังได้ส่งเสริมการนำแนวทางปฏิบัติสำหรับการเดินทางอย่างรับผิดชอบมาใช้ในกลุ่มผู้ขับขี่ ผ่านการเปิดตัวแคมเปญ #LeaveEveryPlaceBetter สนับสนุนให้ผู้ร่วมกิจกรรมทุกคนซื้อสินค้า/บริการในท้องถิ่น ทิ้งขยะของตัวเองให้ถูกที่ และหลีกเลี่ยงการใช้ของที่ทำมาจากพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง

Royal Enfield One Ride 2021

คุณวิมัล ซุมบ์ลี, หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก, รอยัล เอนฟิลด์ กล่าวถึงกิจกรรม One Ride ว่า “ตลอด 120 ปีที่ผ่านมา รอยัล เอนฟิลด์ได้หล่อหลอมจิตวิญญาณของการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่แท้จริงด้วยการผจญภัย การเดินทาง และการสำรวจ วัฒนธรรมของการขับขี่เพื่อพักผ่อนถูกเผยแพร่ผ่านกิจกรรมที่ทั้งสนุก และให้ประสบการณ์ที่ดีมากมายในโปรแกรมการขับขี่และกิจกรรมต่าง ๆ ของเรา สำหรับเรา One Ride ไม่ใช่แค่กิจกรรมทั่วไป แต่คือการเฉลิมฉลองจิตวิญญาณของการขับขี่รถจักรยานยนต์ และกลุ่มผู้ขับขี่ของเราที่กำลังเติบโต ในปีค.ศ. 2019 เราจัดกิจกรรมขับขี่มากกว่า 30 ครั้ง โดยมีผู้ร่วมกิจกรรมกว่า 2,000 คนจากประเทศไทย อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เกาหลี เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และสิงคโปร์ เรากำลังขยายกลุ่มผู้ขับขี่เพื่อการพักผ่อนทั่วโลกอย่างรวดเร็ว พร้อมนำความสนุกสนานในการขับขี่กลับมา เรารู้สึกยินดีที่ในปีนี้กิจกรรม One Ride ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น เพราะกลุ่มผู้ขับขี่ที่ไว้วางใจในรอยัล เอนฟิลด์ และผู้ที่หลงใหลในการขับขี่รถจักรยานยนต์”

Royal Enfield One Ride 2021

รอยัล เอนฟิลด์ ให้ความสำคัญกับการขับขี่อย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมาตลอด ด้วยการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนในท้องถิ่น ทั้งนี้การสนับสนุนการป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถือเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจทางสังคมของแบรนด์ รอยัล เอนฟิลด์จึงให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่นการแจกจ่ายอาหาร การจัดตั้งกองทุนบรรเทาทุกข์ รวมถึงการเผยแพร่วิธีการป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดที่ถูกต้อง

ในประเทศไทย รอยัล เอนฟิลด์ได้จัดกิจกรรมแจกจ่ายอาหารให้กับชุมชนผู้ยากไร้ที่วัดสังเวชและปากเกร็ด ซึ่งเป็นบ้านของเด็กพิการในกรุงเทพฯ และจังหวัดนนทบุรี ขณะที่ในเมืองจาการ์ตา บันดุง และโบกอร์ในประเทศอินโดนีเซีย รอยัล เอนฟิลด์ก็มีบริการอาหารฟรีสำหรับผู้ไร้บ้าน ส่วนในประเทศออสเตรเลีย รอยัล เอนฟิลด์ก็ได้ทำงานร่วมกับ Food Bank Australia เพื่อแจกจ่ายอาหารกว่า 8,000 ชุด นอกจากนี้รอยัล เอนฟิลด์ยังจัดกิจกรรมขับขี่ที่มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักในปัญหาที่เกี่ยวข้องกับชุมชนในท้องถิ่นให้ลูกค้าอีกด้วย

Royal Enfield One Ride 2021

ในปีนี้มีผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่รถจักรยานยนต์ทุกวัยจากหลายภูมิภาคมาร่วมกิจกรรม One Ride ที่มีความเท่าเทียม และเอกลักษณ์เฉพาะตัว มิตรภาพระหว่างผู้ที่ชื่นชอบ Royal Enfield ทั่วโลกมีชีวิตชีวาขึ้นระหว่างกิจกรรม One Ride ซึ่งสร้างความตระหนักในการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ และการ #LeaveEveryPlaceBetter เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่ทุกคน รอยัล เอนฟิลด์จึงจัดกิจกรรม One Ride ตามแนวทางปฏิบัติ รวมถึงคำสั่งป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ผู้ร่วมกิจกรรมทุกคนผ่านการตรวจสอบอุณหภูมิร่างกาย และใบรับรองการฉีดวัคซีน (ไม่ว่าจะหนึ่งหรือสองเข็ม) รวมถึงถูกขอความร่วมมือให้สวมหน้ากากอนามัย และรักษาระยะห่างจากกันตลอดกิจกรรม

Royal Enfield One Ride 2021

Royal Enfield จัดกิจกรรม One Ride 2021 ขึ้นในกว่า 400 เมืองในประเทศอินเดีย และอีก 35 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา อาร์เจนตินา โคลัมเบีย สเปน เม็กซิโก เปรู ชิลี สหราชอาณาจักร เอกวาดอร์ ฝรั่งเศส อุรุกวัย คอสตาริกา สเปน บราซิล ดูไบ ฝรั่งเศส อิตาลี และเยอรมนี ทั้งนี้ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดกว่า 2,100 คน