เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 64 สิงห์อาสา โดย มูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี และ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ร่วมกับ บริษัท เชียงใหม่เบเวอเรซ จำกัด, เครือข่ายนักศึกษาสิงห์อาสามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ บริษัท สิงห์พัฒน์ 2561 จำกัด เดินทางลงพื้นที่ส่งมอบน้ำดื่มสิงห์ให้กับโรงพยาบาลสนามจังหวัดเชียงใหม่ ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ จ.เชียงใหม่ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะให้การช่วยเหลือ รพ.สนามเชียงใหม่แห่งนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของแพทย์-พยาบาล เตรียมพร้อมรองรับการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ระลอกใหม่
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยระลอก 3 เมื่อช่วงต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นทุกวันและกระจายไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว โดยในจังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่ได้รับผลการทบจากการระบาดระลอกนี้เป็นอย่างมาก มีจำนวนผู้ป่วยพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา รายงานยอดผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ของเชียงใหม่ ตรวจพบเพิ่ม 186 ราย สะสมรวมระลอกใหม่เป็น 381 ราย และอยู่ระหว่างรอผลการตรวจอีกจำนวนมาก นับเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง สำหรับโรงพยาบาลสนามของจังหวัดเชียงใหม่ รับผิดชอบโดย รพ.นครพิงค์และ รพ.มหาราชเชียงใหม่ จัดตั้งอยู่ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ โดยมีเตียงรองรับผู้ป่วยถึง 1,000 เตียง
ซึ่งด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดไปในหลายพื้นที่ในขณะนี้ และผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นมากทุกวัน สิงห์อาสา พร้อมด้วยเครือข่ายสิงห์อาสาทั่วประเทศจะเกาะติดสถานการณ์และข่าวสารอย่างใกล้ชิด หากมีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในที่ใด สิงห์อาสาพร้อมจะลงพื้นที่เข้าไปช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังเต็มความสามารถ เพื่อส่งมอบกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์และบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนต่อไป
ทั้งนี้ นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ได้มีนโยบายช่วยเหลือมาโดยตลอด อาทิ มอบเงินสนับสนุนการทำงานของบุคลากรการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลหลัก 26 แห่งทั่วประเทศ ทั้งยังสนับสนุนอาหารน้ำดื่มให้กับบุคคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่รับมือกับการแพร่ระบาดโควิด-19 ทั้งโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนามมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงประกาศนโยบายเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบผ่านโครงการสิงห์อาสาทั่วประเทศ รวมเป็นมูลค่าการช่วยเหลือกว่า 200 ล้านบาท