ไลฟ์สไตล์ชีวิตของคนเมืองในปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตเผชิญกับปัญหามลภาวะทางอากาศ และฝุ่นละอองที่เกินค่ามาตรฐาน นอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายและก่อให้เกิดการแพ้ระคายเคืองต่อผิวหน้าแล้ว ยังส่งผลกระทบโดยตรงกับเส้นผมและหนังศีรษะ หากละเลยหรือปล่อยไว้นานยิ่งจะทวีความรุนแรงและส่งผลเสียในระยะยาวได้
เคล็ดลับดูแลเส้นผมจากฝุ่น PM2.5 และความร้อน จาก “ธัญ” (THANN)
ฝุ่นละออง PM2.5 (Particulate Matters 2.5) คือฝุ่นละอองที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 2.5 ไมครอนหรือไมโครเมตร ซึ่งเล็กกว่าเส้นผมเราถึง 40 เท่า (เส้นผมมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 100 ไมคอน) เป็นอนุภาคที่ลักษณะขรุขระ สามารถนำพาสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกายต่างๆ ติดมาด้วย อาทิ แคดเมียม ปรอท โลหะหนัก ไฮโดรคาร์บอน เป็นต้น นอกจากนี้ฝุ่นละอองและมลภาวะสามารถเกาะตัวกับเส้นผมได้มากกว่าผิวหนังถึง 3 เท่า โดยเฉพาะผู้ที่มีผมหนาหรือยาวมักเกิดปัญหาผมเกิดความอ่อนแอ แห้งกรอบ หลุดร่วงง่าย รวมถึงการอุดตันรูขุมขนบนหนังศีรษะ และการเกิดสิว หากปล่อยไว้นานฝุ่นละอองเหล่านี้สามารถแทรกซึมเข้าเส้นผมและทำลายโครงสร้างโปรตีนของเส้นผม ทำให้ผมแห้งและหลุดร่วงมากยิ่งขึ้น โดยปกติแล้วเส้นผมของคนเราจะหลุดร่วงเฉลี่ยประมาณวันละ 70-100 เส้น หากหลุดร่วงมากกว่านั้นก็อาจะเป็นสัญญาณว่าหนังศีรษะเริ่มมีปัญหา
แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ‘ธัญ’ (THANN) ที่ได้รับการยอมรับจากสากลทั่วโลก พร้อมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมและหนังศีรษะ รศ.ดร. แพทย์หญิง รัชต์ธร ปัญจประทีป อาจารย์ประจำแผนกผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แนะเคล็ดลับการดูแลเส้นผมเมื่อต้องเผชิญกับมลภาวะทางอากาศ ฝุ่น PM2.5 และความร้อน กับผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ‘ธัญ อะโรม่าเธอราพี แชมพู’ (THANN Aromatherapy shampoo) 4 ชนิด อาทิ ‘ดีท็อกซิฟายอิ้ง ฟอร์มูล่า” (Detoxifying formula), ‘เอ็กซ์ตร้า ชายน์ ฟอร์มูล่า’ (Extra shine formula), ‘เอ็กซ์ตร้า นูริชชิ่ง ฟอร์มูล่า’ (Extra nourishing formula), ‘คัลเลอร์ ทรีท แฮร์ ฟอร์มูล่า’ (Colour treated Hair formula) และผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูสภาพเส้นผม ‘แอดวานซ์ โพรเทคทีฟ แฮร์ เซรั่ม’ (Advance protective hair serum) และ ‘แฮร์ มาส์ก’ (Hair mask) โดยมีเซเลบริตี้สาวสวยร่วมเผยเคล็ดลับการดูแลเส้นผมตามแบบฉบับขของตนเอง อาทิ เมลนีย์ อยู่วิทยา, ญาดา รุ่งวัฒนภักดิ์ และ วัจณา เจริญสมสมัย ที่ ธัญ แซงชัวรี่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
รศ.ดร. แพทย์หญิง รัชต์ธร ปัญจประทีป อาจารย์ประจำแผนกผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แนะนำเคล็ดลับดูแลเส้นผมเมื่อต้องเผชิญกับมลภาวะทางอากาศ ฝุ่น PM2.5 และความร้อนว่า “ปัญหามลภาวะทางอากาศทั้งแสงแดด ฝุ่นละอองPM 2.5 ที่เราต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน นอกจากจะส่งผลกระทบกับสุขภาพร่างกายและผิวพรรณแล้ว ยังส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้เกิดอาการหนังศีรษะแห้งลอกเป็นขุย เส้นผมเปราะบาง ขาดความเงางาม หลุดร่วงง่าย การทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำเป็นประจำ เพื่อกำจัดคราบไขมัน ฝุ่นละออง และสิ่งสกปรก รวมถึงคราบสารเคมีจากผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม สำหรับคนที่หนังศีรษะมัน ควรสระผมทุกวัน หรือวันเว้นวัน และคนที่หนังศีรษะแห้งก็สามารถทิ้งระยะห่างในการสระผมห่างได้เช่นทุก 2-3 วัน
แชมพูที่ดีควรขจัดคราบไขมัน สิ่งสกปรกตกค้าง รวมถึงสารเคมีจากผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมออกไปได้มากที่สุดโดยไม่ทำให้เส้นผมหรือหนังศีรษะแห้งคัน ในปัจจุบันมีแชมพูสระผมหลากหลายประเภท อาทิ แชมพูสำหรับผมปกติ (Normal hair), ผมแห้ง (Dry hair), ผมมัน (Oily hair), ผมเสียแห้งเสีย (Damaged hair), ผมเส้นเล็ก (Fine hair), ผมทำสี (Colour treated hair) และแชมพูยาสำหรับรักษารังแคหรือการอักเสบของหนังศีรษะ ซึ่งการเลือกใช้ควรพิจารณาว่าแชมพูชนิดไหนเหมาะกับสภาพเส้นผมและหนังศีรษะของเรา นอกจากนี้การทำแฮร์ทรีทเม้นท์ (Hair treatment) ก็มีส่วนช่วยฟื้นฟูสภาพเส้นผมที่แห้งเสียให้กลับมามีสุขภาพดี การใช้ครีมนวดผม (Hair conditioner), ครีมหมักผม (Hair mask) หรือเซรั่มบำรุงเส้นผม (Hair serum) ที่มีส่วนผสมของน้ำมันสกัดจากธรรมชาติ จะช่วยเคลือบปิดเกล็ดผม (Cuticular scales) ไม่ให้ฉีกขาดง่าย ช่วยลดแรงต้าน (Friction) เวลาหวีผม ทำให้เส้นผมไม่ถูกทำลายได้โดยง่าย และทำให้เส้นผมมีน้ำหนัก
สิ่งที่ทำลายสุขภาพเส้นผมโดยที่เราไม่รู้ตัว ทำให้เส้นผมเกิดความอ่อนแอ แห้งเสีย ชี้ฟูและไม่เงางาม ได้แก่
· การใช้แชมพูสระผมที่มีค่าความเป็นด่างสูง ทำให้เกล็ดผมบวม และง่ายต่อการถูกทำลาย รวมถึงการใช้น้ำที่ร้อนเกินไปสระผม ทำให้เส้นผมสูญเสียความชุ่มชื้น เนื่องจากน้ำร้อนจะไปชะล้างน้ำมันที่หล่อเลี้ยงเส้นผมออกไป ทำให้ผมแห้งเสีย
· การใช้ไดร์ร้อนเป่าผม เครื่องหนีบผม หรือเครื่องม้วนผม เป็นการทำลายเกล็ดผม ทำให้เส้นผมแห้งเสีย และชี้ฟูการดัดหรือยืดผมทำให้ผมเสีย เนื่องจากสารเคมีในน้ำยาดัดหรือยืดผมทำให้เส้นผมเกิดการเปลี่ยนรูปร่าง และเปราะบางขึ้น ส่วนการกัดสีหรือทำสี ทำให้รากผมอ่อนแอ หลุดร่วงง่าย บางรายอาจมีอาการแพ้ เกิดผื่นคันที่หนังศีรษะ รวมถึงเกิดอาการผมร่วงได้ เนื่องจากในน้ำยาทำสีผมมีส่วนประกอบของสารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรดและด่าง
· การอยู่ในสภาพอากาศที่แห้งเป็นเวลานาน ทำให้เส้นผมแห้งกระด้าง เกิดไฟฟ้าสถิต ผมชี้ฟู และจัดทรงยากส่วนความร้อนจากแสงแดดและรังสี UV ก็ทำให้เส้นผมเปราะ ขาดง่าย แห้งกร้าน เนื่องจากโปรตีนเคราตินที่ทำหน้าที่ปกป้องเส้นผมถูกทำลาย
· ความเครียดทำให้ผมแห้งเสีย ขาดน้ำหนัก ในบางรายอาจมีอาการผมร่วงได้ เนื่องจากความเครียดส่งผลต่อฮอร์โมน และระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติ ทำให้สารอาหารที่ไปช่วยบำรุงเส้นผมไม่เพียงพอ
· การถอนเส้นผมอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ทำให้ผมไม่งอกขึ้นมาใหม่ ส่วนการแกะเกาหนังศีรษะอย่างรุนแรง อาจทำให้เกิดผื่นคันเรื้อรัง ผมหักขาดเป็นหย่อมๆ
การมีผมสวยสุขภาพดีย่อมเป็นที่ดึงดูด และส่งผลดีต่อบุคลิกภาพ ทำให้เกิดความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งวิธีการง่ายๆ เริ่มจากลดการใช้สารเคมีในการทำสี ดัด ย้อมให้น้อยที่สุด, หลีกเลี่ยงการเป่าผมด้วยความร้อนจัด หลีกเลี่ยงการหนีบผม หรือไดร์ยืดผมตอนที่เส้นผมยังเปียกอยู่ เพราะจะทำให้เส้นผมขาดหักได้ง่าย, การหวีผม ควรใช้แปรงที่มีตุ่มหรือหวีซี่ใหญ่ โดยไม่ทำให้เกิดเส้นผมขาดจากการเกี่ยวของหวีหรือแปลงได้, ควรใช้น้ำอุ่นในการสระผม โดยให้ปลายนิ้วนวดคลึงหนังศีรษะ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และไม่ควรเกาหนังศีรษะอย่างรุนแรงขณะสระผม นอกจากนี้การรับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามินเอ, วิตามินบี, สังกะสี (Zinc) และเหล็ก (Iron) อาทิ เนื้อปลา หอยนางรม ไข่ นมหรือผลิตภัณฑ์จากนม ถั่วและธัญพืชชนิดต่างๆ ผักใบสีเขียวเข้ม ส้ม และแครอท ฯลฯ ก็ช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงและมีสุขภาพดีได้อีกด้วย”
‘ธัญ’ (THANN) ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ผสานคุณค่าแห่งพืชพรรณจากแหล่งธรรมชาติชั้นดีทั่วโลกและเทคโนโลยีอันทันสมัย ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ‘ธัญ’ (THANN) มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ธรรมชาติผสานเทคโนโลยีชั้นนำ เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม โดยปัจจุบันมีกว่า 90 สาขา รวมถึงสปาอีก 15 แห่งใน 3 ทวีป ได้แก่ เอเชีย อเมริกา และยุโรป โดยผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้ในครั้งนี้เป็นผลิตภัณฑ์โฮม อะโรมา ซึ่งประกอบไปด้วย ‘อะโรมาเธอราพี แชมพู ดีท็อกซิฟายอิ้ง ฟอร์มูล่า” (Aromatherapy shampoo detoxifying formula) ขนาด 250 มล. ราคา 550 บาท แชมพูสูตรขจัดสิ่งสกปรกและสารเคมีตกค้าง สูตรทำความสะอาดเส้นผมได้อย่างล้ำลึก แต่คงความอ่อนโยน พร้อมคืนความชุ่มชื้นและเพิ่มความเงางามให้กับเส้นผมด้วย น้ำมันมะกอกออแกนิค (Organic olive oil), น้ำมันโจโจ้บา (Jojoba oil), สารสกัดจากลูกเดือย (Coix seed extract) และโปรตีนสกัดจากข้าวสาลี (Wheat protein) มีให้เลือก 2 กลิ่น คือ ‘อะโรมาติก วูด’ (Aromatic wood) และ ‘โอเรียนทอล เอสเซ้นซ์’ (Oriental essence)
‘อะโรมาเธอราพี แชมพู เอ็กซ์ตร้า ชายน์ ฟอร์มูล่า’ (Aromatherapy shampoo extra shine formula) ขนาด 250 มล. ราคา 550 บาท แชมพูสูตรเพิ่มความเงางามให้กับเส้นผมด้วยคุณประโยชน์จากน้ำมันสกัดจากธรรมชาติที่อุดมด้วยกรดไขมันที่จำเป็น และวิตามินอี อาทิ น้ำมันมะกอกออแกนิค (Organic Olive Oil), น้ำมันงาออแกนิค (Organic Sesame Oil) และ น้ำมันรำข้าว (Rice Bran Oil) พร้อมกลิ่นหอมสดชื่นของน้ำมันหอมธรรมชาติจาก ส้ม (Orange), แทงเจอรีน (Tangerine), จันเทศ (Nutmeg) และ ไม้จันทน์ (Sandalwood)
‘อะโรมาเธอราพี แชมพู เอ็กซ์ตร้า นูริชชิ่ง ฟอร์มูล่า’ (Aromatherapy shampoo extra nourishing formula) ขนาด 250 มล. ราคา 550 บาท แชมพูสูตรเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงให้ผมนุ่มสลวย ด้วยคุณประโยชน์จากน้ำมันสกัดจากธรรมชาติที่อุดมด้วยกรดไขมันที่จำเป็น และวิตามินอี อาทิ น้ำมันเมล็ดคาเมลเลียออแกนิค (Organic camellia), น้ำมันอาร์แกนออแกนิค (Organic argan oil) และน้ำมันรำข้าว (Rice bran oil) พร้อมกลิ่นหอมสดชื่นของน้ำมันหอมธรรมชาติจากตะไคร้ (Lemongrass) และ มะกรูด (Kaffir Lime)
‘อีเดน บรีซ คัลเลอร์ ทรีท แฮร์ แชมพู’ (Eden breeze colour treated hair shampoo) ขนาด 250 มล. ราคา 550 บาท แชมพูสูตรที่พัฒนามาสำหรับผมทำสีด้วยค่า pH4.5 ซึ่งเป็นค่าที่เหมาะสมสำหรับเส้นผม ทำความสะอาดเส้นผมได้อย่างอ่อนโยน โดยไม่ทำลายสีผม อุดมด้วยสารสกัดธรรมชาติที่มอบคุณค่าการบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ อาทิ น้ำมันมะกอกออแกนิค (Organic olive oil), น้ำมันโจโจ้บา (Organic jojoba oil), สารสกัดจากไหมข้าวโพดออแกนิค (Organic corn silk extract) เติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมและหนังศีรษะ คืนความเงางาม ลดการหลุดล่วงของเส้นผมด้วยสารสกัดจากดอกลินเดน (Tilicine) และน้ำมันสกัดจากเมล็ดเชีย (Chia seed oil) เพื่อผมนุ่มลื่น น่าสัมผัส
‘แอดวานซ์ โพรเทคทีฟ แฮร์ เซรั่ม’ (Advance protective hair serum) ขนาด 100 มล. ราคา 675 บาท เซรั่มบำรุงผมเพื่อการปกป้องและฟื้นฟูสภาพเส้นผมจากความร้อน และสารเคมีจากผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมสูตรบางเบา พร้อมซึมซาบเข้าบำรุงเกล็ดผมทันทีที่ใช้ เหมาะกับทุกสภาพเส้นผม อุดมด้วยคุณค่าสารสกัดธรรมชาตินานาชนิด อาทิ น้ำมันอาร์แกนออยล์ออแกนิค (Organic argan oil), น้ำมันมะกอกออแกนิค (Organic olive oil), สารสกัดอนุภาคขนาดเล็กจากใบชิโซะ (Nano shiso extract) และสารสกัดจากรากมาคา (Maca root extract)
‘แฮร์ มาส์ก’ (Hair mask) ขนาด 100 มล. ราคา 800 บาท ผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ โดดเด่นด้วยส่วนผสมของสารสกัดอนุภาคขนาดเล็กจากใบชิโซะ (Nano shiso extract) ช่วยเสริมความแข็งแรงกับเส้นผมที่แห้งเสีย รวมถึงทำหน้าที่เป็นสารแอนตี้ออกซิเด้นท์ (Anti-oxidant) ตามธรรมชาติ พร้อมคุณค่าของน้ำมันสกัดเข้มข้นจากอาร์แกนออแกนิค (Organic argan oil), เซราไมด์ โปรตีน (Ceramide protein), น้ำมันโจโจ้บา (Jojoba oil) และโปรตีนสกัดจากข้าวสาลี (Wheat protein) ช่วยบำรุงผมที่แห้งเสีย แตกหักง่าย ให้แข็งแรง เงางาม
ด้านเหล่าเซเลบริตี้สาวรักเส้นผมได้ร่วมกิจกรรม พร้อมเผยเคล็ดลับการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะให้สวยสุขภาพดีในแบบฉบับของตนเอง
เริ่มที่คุณแม่สาวสวย เมลนีย์ อยู่วิทยา เผยว่า “ช่วงนี้ถือว่าไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเองเท่าที่ควร เนื่องจากระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาเมย์จะทุ่มเทเวลาไปกับการดูแลลูกเป็นส่วนใหญ่ ส่วนตัวแล้วเมย์เป็นคนที่แพ้ง่ายมาก ก็เลยให้ความสำคัญกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมเป็นพิเศษ โดยจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันสกัดจากธรรมชาติหรือมีส่วนผสมของสารสกัดออแกนิคที่เน้นเรื่องการบำรุงเส้นผมอะโรมาเธอราพี แชมพู เอ็กซ์ตร้า นูริชชิ่ง ฟอร์มูล่า เพราะนอกจากจะช่วยฟื้นสภาพเส้นผมให้กลับมามีสุขภาพดีแล้ว กลิ่นหอมที่ได้จากน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติก็ช่วยให้เราผ่อนคลายและอารมณ์ดีได้ด้วย นอกจากนี้เมย์ก็จะหาเวลาระหว่างสัปดาห์เพื่อทำแฮร์ทรีทเม้นท์ที่บ้านด้วย แฮร์มาส์กและแฮร์เซรั่มเพื่อฟื้นฟูสภาพเส้นผมที่แห้งเสีย แตกหักง่าย ให้กลับมาแข็งแรง เงางาม และปกป้องเส้นผมจากความร้อนด้วย”
ถัดมาที่สาวสังคม ญาดา รุ่งวัฒนภักดิ์ เล่าว่า “กิ๊ฟเป็นคนที่ชอบทำสีผมตลอดเวลา ซึ่งคนที่ชอบทำสีผมเหมือนกันจะรู้ดีว่าจะต้องคอยหมั่นเติมสีที่โคนผมอยู่ตลอดเพื่อให้สีผมเสมอกัน ปัญหาที่ตามมาจากการทำสีผมก็คือ เส้นผมจะเสียและแห้งมาก ดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เกี่ยวกับเส้นผมจึงต้องเหมาะกับผมทำสีโดยเฉพาะอย่างอีเดน บรีซ คัลเลอร์ ทรีท แฮร์ แชมพู สามารถทำความสะอาดเส้นผมได้อย่างอ่อนโยน ไม่ทำลายสีผม และควรมาร์คผมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งด้วยแฮร์มาส์กซึ่งจะมีความเข้มข้นมากกว่าคอนดิชันเนอร์ทั่วไปหลายเท่าตัว หากใช้คู่กับแชมพูก็จะช่วยให้เส้นผมกลับมามีสุขภาพดีและเห็นผลเร็วยิ่งขึ้น เป็นวิธีง่ายๆ ที่เราสามารถทำเองได้ที่บ้านโดยไม่ต้องเสียเวลาไปทำแฮร์ทรีทเม้นท์ที่ร้านทำผมเลย และหลังจากสระผมเสร็จก็ไม่ลืมที่จะใช้แฮร์เซรั่มเพื่อปกป้องและฟื้นฟูสภาพเส้นผมก่อนเจอกับความร้อนจากไดร์เป่าผมด้วย”
ปิดท้ายที่ดีไซน์เนอร์สาว วัจณา เจริญสมสมัย เผยว่า “ปกติเราเป็นคนที่ไม่ทำสีและไม่ดัดผม จึงทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษา แต่หากช่วงไหนที่ต้องออกงานบ่อยๆ ก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะใช้เครื่องหนีบหรือดัดลอนผม ทำให้เสี่ยงต่อผมแห้งเสียได้ง่าย ยิ่งช่วงนี้มลภาวะจากฝุ่นละออง PM2.5 เยอะมาก การทำความสะอาดเส้นผมจึงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญอย่างมาก เราจึงเลือกใช้แชมพูสูตรที่เน้นทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะที่มีส่วนผสมของน้ำมันสกัดจากธรรมชาติที่เป็นออแกนิค โดยไม่ทำให้ผมแห้งเสียอย่างอะโรมาเธอราพี แชมพู ดีท็อกซิฟายอิ้ง ฟอร์มูล่า ร่วมกับการทำแฮร์ทรีทเม้นท์ที่บ้านเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นผมด้วยแฮร์มาส์กควบคู่กับการอบไอน้ำสัปดาห์ละครั้ง และควรใช้แฮร์เซรั่มบำรุงเส้นผมก่อนการหนีบหรือดัดลอนผม เพื่อเป็นการปกป้องเส้นผมจากความร้อนและมลภาวะด้วย”
สัมผัสผมนุ่มสลวย เงางาม อย่างสุขภาพดี ด้วยผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม ‘แฮร์ แคร์ ซีรี่ส์’ (Hair care series) ได้แล้ววันนี้ที่ออนไลน์สโตร์ www.thann.co.th (ส่งฟรีทั่วประเทศ) และร้าน ‘ธัญ’ (THANN) ทั้ง 15 สาขาทั่วประเทศ อาทิ สาขาสุขุมวิท 47, ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, ชั้น 3 ศูนย์การค้าเกษร, ชั้น 5 ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียม, ชั้น 1 และชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน, ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์, ชั้น 4 ไอคอน สยาม, ร้านวูว์ ถนนเจริญราษฎร์ และสาขาถนนพระปกเกล้า (ตรงข้ามวัดเจดีย์หลวง) จังหวัดเชียงใหม่, สาขาป่าตอง (หน้าโรงแรม La Flora ป่าตอง) จังหวัดภูเก็ต