Tsuta (ซึตะ) ร้านราเมนระดับมิชลินสตาร์ เปิดสาขาแรกใหญ่ที่สุดในโลก ที่เซ็นทรัลเวิลด์

PR NEWS | January 14, 2021January 14, 2021

Tsuta ร้านราเมนระดับมิชลินสตาร์ เจ้าแรกของโลก มาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ Flagship Store สาขาแรกที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Tsuta (ซึตะ) ร้านราเมนระดับมิชลินสตาร์ เปิดแล้วที่เซ็นทรัลเวิลด์

Highlight

· ราเมงร้านแรกของโลก ที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว 4 ปี ติดต่อกัน

· สาขาแรกของโลกที่เปิดเป็น Flagship Store ใหญ่สุด รองรับลูกค้าได้กว่า 50 ที่นั่ง

· เปิดประสบการณ์กับสูตรใหม่ล่าสุด ที่คิดค้นจากเชฟ Yuki ที่นี่ ที่แรก

ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ตอกย้ำการเป็น The Biggest Food Destination in Asia ศูนย์การค้าแห่งเดียวที่มีพื้นที่รวมร้านอาหารใหญ่ที่สุด และเยอะที่สุดในเอเชีย สร้างปรากฏการณ์เขย่าวงการสายกินต่อเนื่อง เอาใจสายกินคอราเมง ไม่ต้องไปต่อคิวไกลถึงประเทศญี่ปุ่น นำร้าน Tsuta (ซึตะ) ราเมนชื่อดัง เจ้าแรกของโลกที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ (THE WORLD’S FIRST MICHELIN-STARRED RAMEN) ติดต่อกัน 4 ปี มาเปิดให้บริการในรูปแบบ Flagship Store สาขาแรกของโลกที่ใหญ่สุด พร้อมเพิ่มสูตรใหม่ล่าสุด ให้คนไทยได้สนุกกับการกินราเมงมากยิ่งขึ้น คิดค้นโดยเชฟ Yuki เสิร์ฟความพิเศษ ที่นี่ ที่แรก

ต้นกำเนิดมาจากความฝันของเชฟ ในการทำราเมงให้เป็นอาหารขึ้นชื่อของประเทศญี่ปุ่น

ร้าน Tsuta ก่อตั้งโดย Yuki Onishi ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง และเชฟของร้าน ได้เปิดให้บริการครั้งแรกใน Sugamo กรุงโตเกียว ในเดือนมกราคม 2555 โดยเปิดเป็นร้านเล็กๆ ที่มีเพียง 9 ที่นั่ง คำว่า Tsuta ที่เป็นชื่อร้านมีต้นกำเนิดมาจากความฝันของเชฟ ในการทำราเมงให้เป็นอาหารขึ้นชื่อของประเทศญี่ปุ่น เชฟ Yuki ได้นำคำสอนของบรรพบุรุษ ที่ถูกถ่ายทอดวิธีการปรุงโดยใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ ในการทำอาหารมาพัฒนา สร้างสรรค์เมนูราเมงของตัวเอง โดยอาศัยศิลปะการสร้างสรรค์รสชาติดั้งเดิม จึงทำให้ Tsuta กลายเป็นราเมงที่มีความซับซ้อนของรสชาติ ด้วยความพิถีพิถันในการคัดสรรวัตถุดิบจากธรรมชาติ และไม่ใช้ผงชูรสแต่ยังคงเอกลักษณ์ความอร่อยของราเมงไว้อยู่ ทำให้ Tsuta ได้เป็น ร้านราเมงแห่งแรกในโลกที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว ติดต่อกันมา 4 ปี ( THE WORLD’S FIRST MICHEIN-STARRED RAMEN ) ตั้งแต่ ปี 2016 – 2019

ประเทศไทย สาขาแรก ที่เปิดให้บริการในรูปแบบ Flagship Store ที่ใหญ่ที่สุด

และในปัจจุบัน Tsuta ได้ขยาย Franchise จนมีสาขาไปทั่วโลก ทั้ง อเมริกา ไต้หวัน สิงคโปร์ ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ และสาขาล่าสุดที่ประเทศไทย ที่นี่เป็นสาขาแรก ที่เปิดให้บริการในรูปแบบ Flagship Store ที่ใหญ่ที่สุด ถือเป็นการรีแบรนด์ดิ้งใหม่ของร้าน Tsuta ที่เป็นสาขานอกประเทศญี่ปุ่น นำเข้ามาโดย คุณอยุทธ์ พจน์อนันต์ และ คุณวรพรรณ จิตตะเสนีย์ (เจ้าของร้าน) ทั้งคู่ที่มีความชื่นชอบ และ เชี่ยวชาญด้านอาหารญี่ปุ่นเป็นอย่างดี จึงเล็งเห็นว่า “อยากให้คนไทยได้ทานของอร่อย และมีคุณภาพจากต้นตำรับ โดยไม่ต้องรอไปต่อคิวไกลถึงญี่ปุ่น” เป็นจุดเริ่มต้นในการนำร้าน Tsuta มาเปิดให้บริการ ณ บริเวณ ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

สำหรับสาขาในประเทศไทย เชฟ Yuki ได้คิดค้นสูตรใหม่ขึ้นมา เพื่อเพิ่มอรรถรสให้การกินราเมงสนุกยิ่งขึ้น โดยควบคุมคุณภาพการผลิตอย่างพิถีพิถัน โดย Executive Chef และ Chef Operation Director ที่ส่งตรงมาจากญี่ปุ่น เพื่อให้ราเมงทุกชามให้ได้มาตรฐานเดียวกันกับที่ญี่ปุ่น 100%

สไตล์การตกแต่งร้าน Tsuta @ Central World

การตกแต่งของร้านเน้นบรรยากาศอบอุ่น เรียบง่าย คลุมโทนด้วยสีน้ำตาลไผ่อ่อนและสีดำ คลาสสิคในแบบของญี่ปุ่น ทำให้ดูอบอุ่น ตัดด้วยเก้าอี้สีแดง สร้างบรรยากาศภายในร้านให้ดูสนุกสนานและมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น สามารถรองรับลูกค้าได้ กว่า 50 ที่นั่ง นับว่าเป็นสาขาแรก ที่เปิดเป็น Flagship Store ที่ใหญ่ที่สุด โดยลูกค้าสามารถเลือกนั่งทานได้ทั้งภายในและภายนอกร้าน (Terrace)

เมนูความอร่อยแบบต้นตำหรับ เพิ่มเติมคือลูกเล่นใหม่ที่สนุกขึ้น ด้วย Signature Menu

Tsuta Signature Shoyu Soba with Truffle Slice

Shoyu Soup – Signature ของ Tsuta ที่ถูกสร้างสรรค์และคิดค้นโดยเชฟ Yuki ที่นำความอร่อยของโซยุ ซึ่งเป็นสูตรพิเศษปรุงขึ้นมาจากถั่วเหลืองทั้งลูก ที่สุกเต็มที่ 2 ปี จากจังหวัดวากายามะ จึงทำให้ Shoyu Soup ของ Tsuta มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และเมื่อนำมาผสมผสานกับน้ำซุปดาชิ และ Truffle Oil แล้ว ทำให้ซุป Shoyu ของ Tsuta เป็น Signature ที่ควรลิ้มลอง ควบคู่ไปกับความอร่อยของเส้น Soba สด (หรือเส้นราเมงสด) ที่ Tsuta นำมาสร้างสรรค์ให้กลมกล่อมลงตัวไปกับ Balsamic Truffle Sauce สูตรพิเศษ ช่วยเพิ่มรสสัมผัส และ ความเข้มข้นของ Shoyu Soup

ความพิเศษของราเมงในแบบฉบับของเชฟ Tsuta นั้น ใน 1 ชาม จะมีรสชาติหลากหลาย มีซอสทั้งหมด 3 ประเภทอยู่ในชามเดียว เพื่อเพิ่มความสนุกในการกินราเมง ให้ได้อรรถรสยิ่งขึ้น อาทิเช่น ฟิก (Fig Compote) ที่ให้รสชาติหวานกลมกล่อม เมื่อทานคู่ ซอสมาชรูม (Mushroom Cream Sauce) เพิ่มความเข้มข้น ของซุปโชยุได้ดียิ่งขึ้น เป็นอีกรสชาติและมิติที่หลากหลาย คิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่คนไทยน่าจะชื่นชอบ เพราะมันมีหลายรสชาติ อยู่ในชามเดียว เมื่อทานคู่กับเนื้อหมูสไลด์ ที่ Tsuta Thailand ตั้งใจนำเข้ามาให้ลิ้มลอง อย่างส่วนท้องของหมูดำอิเบริโก จากประเทศสเปน และหมูคุโรบุตะ จากคาโกชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ทำให้คุณภาพราเมงในแต่ละชามของ ร้าน Tsuta ได้มาตราฐานเดียวกันทุกคำ เหมือนกับได้นั่งกินราเมงของ Tsuta อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น

เคล็ดลับการกินราเมงในแบบของ Tsuta

สิ่งแรกที่คุณต้องทำก่อนที่คุณจะทานราเมงในแบบของ Tsuta อย่างเพลิดเพลินจนหมดชามคือ เริ่มต้นจาก การชิมน้ำซุปปกติก่อน และชิมซุปคู่กับ Sauce Topping แต่ละส่วนแยกกันเพื่อสัมผัสรสชาติที่แตกต่างกัน เริ่มตั้งแต่ชิมซุปคู่กับ Balsamic Truffle Sauce ตามด้วยการชิมซุปคู่กับ Mushroom Cream Sauce และชิมซุปคู่กับ Fig Compote หลังจากนั้นก็คนราเมงทั้งชามให้ทุกส่วนผสมเข้ากัน และรับประทาน โดยแนะนำให้ทานทั้งชามให้หมดภายใน 5 นาที ทุกสัมผัสภายในปากตั้งแต่คำแรกจนคำสุดท้ายจะค่อยเผยความอร่อย และความแตกต่างในแต่ละคำที่ได้ทานอย่างลงตัว อีกสุนทรีย์ของกินราเมงระดับมิชลินสตาร์ กับเมนูราเมงที่น่าสนใจ อาทิเช่น

Tsuta Signature Shio Ramen

ความอร่อยของซุปเกลือ ที่เชฟ Yuki สร้างสรรค์รสชาติที่ล้ำลึกด้วยการนำเกลือ 2 ชนิดที่ให้รสชาติที่แตกต่างมาผสมผสานกัน ตั้งแต่ Okinawa sea salt เกลือจากโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น และ Mongolian Rock Salt ที่เมื่อนำมาผสมผสานกับ White Truffle Oil เพิ่มรสสัมผัส และกลิ่นของน้ำซุปให้มากยิ่งขึ้น

Tonkosu Soba, Mala Tonkotsu Soba

อีกเมนูที่เชฟ Yuki คิดค้น และพัฒนาความอร่อยด้วยการนำกระดูกหมูดำไปเคี่ยวในอุณหภูมิสูงจนกระดูกหมูละลาย ทำให้น้ำซุปทงคตสึของ Tsuta ไม่เหมือนที่ไหนที่เคยทาน

นอกจากนี้ สำหรับสาขาที่ประเทศไทย เชฟ Yuki ได้สร้างสรรค์ราเมง เพื่อเอาใจคนไทยคอราเมง ด้วยเมนูราเมงซุปหม่าล่า Mala Tonkotsu Soba

เชิญมาสัมผัสประสบการณ์ราเมงระดับมิชลินสตาร์ ได้อย่างสบายใจ ห่างไกลจากเชื้อโควิด 19 ด้วยการปฏิบัติตามแผนแม่บท “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ” โดยครอบคลุมใน 5 แกนหลัก คือ