ประเด็นสำคัญ
- มาตรการที่ประกาศออกมาใหม่นี้ มีความเข้มงวดมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา
- การออกนอกเคหสถานนั้น เป็นการ “ห้าม” ซึ่งหากไม่มีความจำเป็นไม่ควรออกจากบ้าน
- ให้ Work from Home 100% ทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน พร้อมย้ำ “ไม่ออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น”
- ประเมินผล 7 วัน หากยอดยังคงไม่ลด ก็จะมีการยกระดับมาตรการที่เข้มข้นขึ้นไปอีก
…
จากการประชุมระหว่างผู้บริหารสื่อทั้งในและต่างประเทศ กับทางศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) เมื่อวานนี้ ( 18 ก.ค. ) ทางพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้ย้ำถึงมาตรการที่มีการประกาศไปก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับการยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มข้น 13 จังหวัด หรือพื้นที่สีแดงเข้ม
มาตรการสำหรับภาคประชาชน
โดยในมาตรการที่ประกาศออกมานั้น สำหรับประชาชน จะเป็นการกำหนด “ข้อห้าม” และ “ข้อจำกัด” ในมาตรการที่เรียกว่า “ล็อกดาวน์” พื้นที่ใน 13 จังหวัดคือ
- ห้ามออกนอกเคหสถาน 21.00 – 04.00 น.
ยกเว้นกรณีของผู้ที่ได้รับอนุญาต - จำกัด เลี่ยง งดเดินทางออกนอกเคหสถานโดยไม่จำเป็น
ยกเว้นกรณีการซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต การพบแพทย์ การรับวัคซีน - ทำงานที่บ้าน 100% ทั้งส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน
ยกเว้น - การจัดประชุม สัมมนา ออนไลน์เป็นหลัก
- ลด-จำกัด จำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการไม่เกิน 50% ของความจุผู้โดยสาร
- ห้ามจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มของบุคคลมากกว่า 5 ราย
มาตรการสำหรับกิจการต่าง ๆ
- ร้านอาหาร / เครื่องดื่ม เปิดจำหน่ายได้ถึง 20.00 น. โดยห้ามทานในร้าน ให้ซื้อกลับบ้านเท่านั้น
- ร้านสะดวกซื้อ – ตลาด เปิดได้ระหว่าง 04.00 – 20.00 น. เท่านั้น
- ห้าง/ศูนย์การค้า เปิดได้เฉพาะแผนกซุปเปอร์ฯ ยา-เวชภัณฑ์ และพื้นที่การให้บริการทางการแพทย์ เช่นการฉีดวัคซีน
- งดการจัดประชุม สัมมนา จัดเลี้ยง ในพื้นที่โรงแรม
- ห้ามใช้สถานที่ โรงเรียน/สถานศึกษา/สถาบันฯ ในการเรียนการสอน โดยให้จัดการเรียนการสอนออนไลน์
กิจการที่สามารถเปิดได้ตามความจำเป็นและต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด
- โรงพยาบาล สถานพยาบาล
- ร้านขายยา-เวชภัณฑ์ ร้านค้าทั่วไป-ร้านค้าสินค้าจำเป็น
- โรงงาน
- ธุรกิจหลักทรัพย์, การเงิน, ธนาคาร, ตู้เอทีเอ็ม
- ธุรกิจการสื่อสาร คมนาคม ไปรษณีย์และพัสดุภัณฑ์
- ร้านจำหน่ายเครื่องมือช่าง และอุปกรณ์ก่อสร้าง
- สถานที่จำหน่ายแก๊สหุงต้ม เชื้อเพลิง ปั้มน้ำมัน ปั้มแก๊ส
- บริการส่งสินค้า-อาหารตามสั่ง
ย้ำมาตรการเข้มงวด
ซึ่งมาตรการต่าง ๆ เหล่านี้ จะบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม ถึง 2 สิงหาคม โดยให้บังคับใช้ในระยะแรกเป็นเวลา 14 วัน และจะมีการประเมินผลย่อยช่วง 7 วัน เมื่อครบ 14 วันก็จะประเมินเป็นทางการอีกครั้ง แต่ในความเป็นจริง จะมีการประเมินทุกวันอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม หากในช่วง 7 วันรแก ของการบังคับใช้มาตรการ ยังคงมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม ก็จะมีการปรับมาตรการที่เข้มข้นขึ้นไปอีก
ซึ่งในการประกาศในครั้งนี้ จะเป็นมาตรการที่เข้มงวดกว่าที่ผ่านมา ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นการ “ล็อกดาวน์” จึงจะเน้นย้ำให้ประชาชนอยู่ในบ้าน-ที่พักเป็นหลัก ไม่เดินทางโดยไม่จำเป็น