วัคซีนโควิด-19

แจงเสียชีวิต 12 คน ไม่เกี่ยวกับวัคซีนโควิด สปสช.เยียวยาเเพ้วัคซีน

สปสช. เร่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนป้องกันโควิด-19

Home / โควิด-19 / แจงเสียชีวิต 12 คน ไม่เกี่ยวกับวัคซีนโควิด สปสช.เยียวยาเเพ้วัคซีน

ประเด็นน่าสนใจ

  • กรมควบคุมโรค รายงานเคสผู้เสียชีวิตในรายงานหลังรับวัคซีนแล้วทั้งหมด 28 ราย
  • โดยพบว่า 12 รายที่เสียชีวิต พบว่า ไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีนโควิด-19
  • สปสช. เร่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนป้องกันโควิด-19
  • [เพิ่มเติม] แคนาดา อัปเดต ผู้เสียชีวิตหลังรับวัคซีนเพิ่มเติม

วานนี้ (9 มิ.ย.2564) นพ.เฉวตสรร นามวาท ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพ ในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับกรณีที่ 12 คนที่เสียชีวิต ผลการพิสูจน์ออกมาว่า เป็นสาเหตุร่วมที่เกิดขึ้นจากอาการป่วยที่มีอยู่เเล้ว คือ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน 8 คน Immune Thrombotic thrombocytopenic purpura 1 คน ลิ่มเลือดอุดตันในปอด 1 คน เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (purulent meningitis) 1 คน และเลือดออกในช่องท้อง 1 คน ส่วนที่เหลืออีก 15 คน อยู่ในระหว่างการส่งตรวจเพื่อนำไปชันสูตรและสอบสวนโรค

ตัวอย่างกรณีการเสียชีวิตที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน

สำหรับหญิงอายุ 46 ปี ที่เสียชีวิตล่าสุด นับเป็นรายที่ 28 จ.ปทุมธานี เมื่อตรวจชันสูตรแล้ว พบว่าการอักเสบของเยื่อหุ้มสมองไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน ซึ่งจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะผู้เชี่ยวชาญต่อไป

กระทรวงสาธารณสุขยืนยันวัคซีนมีความปลอดภัย

ภาพรวมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-8 มิ.ย. 64 ที่ผ่านมา มีการจัดสรรวัคซีน COVID-19 ทั้งหมด 6,756,493 โดส แบ่งเป็นวัคซีนซิโนแวค 4,982,313 โดส และวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 1,774,180 โดส ได้รับการฉีดวัคซีนทั้งหมด รวมสะสม 5,107,069 โดส สำหรับการฉีดวัคซีนจึงมีการติดตามเรื่องความปลอดภัย โดยเก็บรวบรวมข้อมูลอาการไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงอาการหนักเเละอาจถึงขั้นเสียชีวิต

ดังนั้น หากพบผู้ที่มีอาการไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น กรณีที่อาการรุนแรงไปจนถึงเสียชีวิตจะมีการส่งตรวจหาสาเหตุว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ โดยจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะผู้เชี่ยวชาญต่อไป

สปสช.เยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากการฉีดวัคซีน COVID-19

หากพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับวัคซีนสามารถยื่นเรื่องขอเยียวยาผ่านทางโรงพยาบาลที่ฉีดวัคซีน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือสำนักงานเขตสุขภาพ ซึ่งจะพิจารณาตามความรุนแรงของอาการ ทั้ง 3 ระดับ คือ การเจ็บป่วยที่อาจทำให้ขาดงานระยะหนึ่ง จะได้รับการเยียวยาไม่เกิน 100,000 บาท, หากพิการ หรือทุพพลภาพ จะได้รับการเยียวยาไม่เกิน 240,000 บาท และกรณีที่เสียชีวิต จะได้รับการเยียวยาไม่เกิน 400,000 บาท หากผู้เสียหายไม่พอใจกับผลการพิจารณาสามารถอุทธรณ์ได้

ทั้งนี้ เมื่อพบอาการป่วยใด ๆ ก็ตาม หลังจากฉีดวัคซีน ให้เริ่มจากการรับประทานยาบรรเทาก่อน หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการป่วยรุนแรง หรือมีความกังวลว่าจะเป็นหนัก สามารถไปโรงพยาบาลเเละพบเเพทย์ได้ทันที


เพิ่มเติม – มีรายงานพบผู้มีอาการหลังฉีดวัคซีนที่เเคนาดา

รายงานจากหน่วยงานสาธารณสุขของแคนาดา Health Canada พบผู้ที่มีอาการไม่พึงประสงค์หลังจากฉีดวัคซีนป้องกันโควิด มีการรายงานทั้งหมด 6,408 ฉบับ คิดเป็น 28.1 ราย ต่อ 100,000 โดส จนถึงวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 มีรายงาน 1,262 ฉบับ ที่ถือว่าร้ายแรง คิดเป็น 5.5 ราย ต่อ 100,000 โดส แม้ว่าจำนวนการให้ยาจะเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป แต่อัตราความร้ายเเรงของอาการยังถือว่าต่ำอยู่

ผู้เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน

  • จนถึงวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 มีรายงานผู้เสียชีวิตทั้งหมด 94 ราย หลังการให้วัคซีน
    • 45 ราย ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน
    • มีผู้เสียชีวิต จำนวน 36 ราย ที่คาดว่าไม่น่าจะเชื่อมโยงกับวัคซีน COVID-19
    • ไม่สามารถประเมินผู้เสียชีวิตได้ 8 ราย เนื่องจากข้อมูลไม่เพียงพอ
    • เสียชีวิต 5 ราย จากการการเกิดลิ่มเลือดอุดตันด้วยภาวะเกล็ดเลือดต่ำ (อ้างอิงจากหัวข้อย่อย (VITT) ด้านบน)

รายงานการสร้างภูมิคุ้มกันของเเต่ละวัคซีน

ประเภทวัคซีนโควิด-19 ที่อนุมัติให้ใช้ในแคนาดาในปัจจุบัน ได้แก่ Pfizer-BioNTech, Moderna, AstraZeneca, COVISHIELD (เวอร์ชันของวัคซีน AstraZeneca ที่ผลิตโดย Serum Institute of India และได้รับการสนับสนุนโดย Verity Pharmaceuticals Inc.) และ Janssen (จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน) แม้ว่าวัคซีน Janssen จะได้รับการอนุมัติให้ใช้ในแคนาดา แต่ยังไม่มีการแจกจ่ายในช่วงระยะเวลาการรายงานนี้

การเกิดลิ่มเลือดอุดตันด้วยภาวะเกล็ดเลือดต่ำ

  • การเกิดลิ่มเลือดมีลักษณะเป็นลิ่มเลือดที่มีระดับเกล็ดเลือดต่ำ (VITT) หรือที่รู้จักในชื่อ Vaccine-Induced Prothrombotic Immune Thrombocytopenia (VIPIT) เรียกว่า TTS ซึ่งดูเหมือนว่าจะถูกกระตุ้นด้วยวัคซีนเนื่องจากได้รับการยืนยันจากห้องปฏิบัติการ
  • จนถึงวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 มีผู้ป่วยโรค TTS ในแคนาดา จำนวน 44 ราย โดยมีรายงานที่ส่งไปยัง PHAC หรือ Health Canada
    • 42 ราย ได้รับวัคซีน COVISHIELD/AstraZeneca 1 ราย ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ และอีก 1 รายได้รับวัคซีน Moderna
    • อาการเริ่มมีตั้งแต่ 3 ถึง 34 วัน หลังการฉีดวัคซีน
    • 26 ราย เป็นเพศชาย (อายุระหว่าง 34 ถึง 81 ปี), 17 ราย เป็นเพศหญิง (อายุ 44 ถึง 72 ปี) และไม่ระบุเพศอีกจำนวนหนึ่ง
    • 28 ราย มีผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการแสดงให้เห็นว่ามีแอนติบอดีต่อเกล็ดเลือด ที่เรียกว่า การเกิดลิ่มเลือดอุดตันด้วยภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
    • เสียชีวิต จำนวน 5 ราย

กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด/เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ

  • การอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบคือการอักเสบของเยื่อบุรอบหัวใจ
  • จนถึงวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 มีผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด/เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ จำนวน 25 ราย โดยมีรายงานที่ส่งไปยัง PHAC หรือ Health Canada
    • 19 ราย ได้รับวัคซีน Pfizer-BioNTech COVID-19 , 4 ราย ได้รับวัคซีน Moderna และ 2 ราย ได้รับวัคซีน COVISHIELD/AstraZeneca
    • เริ่มมีอาการ ตั้งแต่ 5 ชั่วโมงเเรก ไปจนถึง 92 วัน
    • เพศหญิง 15 ราย (อายุระหว่าง 20 ถึง 76 ปี) และ เพศชาย 10 ราย (อายุ 29 ถึง 70 ปี)

ทั้งนี้ Health Canada หน่วยงานสาธารณสุขของแคนาดา เเละหน่วยงานด้านสาธารณสุขระดับจังหวัดและในอาณาเขตจะยังคงเฝ้าติดตามต่อไป โดยได้ระบุว่าไม่มีปัญหาในเรื่องของความปลอดภัย