โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ (18 ธ.ค.) ระบุว่าไมก์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้หารืออย่างเป็นส่วนตัวกับจอห์น ซัลลิแวน เอกอัครราชทูต และได้ตัดสินใจเตรียมปิดสถานกงสุล 1 แห่งในเมืองวลาดีวอสตอค (Vladivostok) และระงับการดำเนินงานที่สถานกงสุลอีก 1 แห่งในเมืองเยคาเตรินเบิร์ก (Yekaterinburg) ของรัสเซีย
แถลงการณ์ระบุว่าการตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของคณะทูตของสหรัฐฯ ในรัสเซีย และสหรัฐฯ มิได้มีการวางแผนการดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถานกงสุลของรัสเซียในสหรัฐฯ
เมื่อวันศุกร์ สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า กระทรวงฯ ยื่นเอกสารลงวันที่ 10 ธ.ค. ให้กับสภาคองเกรสว่าด้วยการดำเนินงานที่วางแผนไว้ข้างต้น โดยมีรายละเอียดว่ากระทรวงฯ ตั้งใจที่จะดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวเพื่อรับมือกับปัญหาการจัดหาบุคลากรสำหรับคณะทูตของสหรัฐฯ ในรัสเซีย ที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากรัสเซียกำหนดขีดจำกัดด้านบุคลากรในคณะทูตของสหรัฐฯ เมื่อปี 2017 และส่งผลให้สองฝ่ายต้องเผชิญอุปสรรคด้านวีซ่าทางการทูต
เอกสารดังกล่าวระบุว่านักการทูตสหรัฐฯ 10 คน ที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในสถานกงสุลสองแห่งดังกล่าว จะได้รับมอบหมายให้มาปฏิบัติหน้าที่ยังสถานทูตในกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย
อนึ่ง กระทรวงฯ ได้ระงับการปฏิบัติงานในเมืองวลาดีวอสตอคทางตะวันออกไกลของรัสเซีย รวมถึงลดปริมาณการให้บริการในเมืองเยคาเตรินเบิร์ก ทางตะวันออกของเทือกเขาอูราล มาตั้งแต่เดือนมีนาคม หลังเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย ในหลายประเด็น อาทิ ความมั่นคงทางไซเบอร์ การควบคุมยุทโธปกรณ์ และปัญหาระดับภูมิภาคอื่นๆ
ที่มา – ซินหัว