วันนี้ (16 ธ.ค. 63) เวลา 10.00 น. นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยตำรวจท่องเที่ยว ได้เดินทางมายื่นหนังสือให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่โกงโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขตปทุมวัน
นายยุทธศักดิ์ ได้เปิดเผยว่า ทางหน่วยงานได้รับข้อมูลมาว่า มีผู้ที่เข้าข่ายกระทำผิดที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงการกระจายอยู่ทั่วประเทศ วันนี้ได้นำข้อมูลโรงแรม และร้านอาหารที่อาจเข้าข่ายกระทำผิดเงื่อนไขของโครงการยื่นให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลในการสืบสวน และดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบว่ามีการกระทำเข้าข่ายความผิดในลักษณะฉ้อโกงเงินของรัฐ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมอบหมายให้กองบังคับการปราบปรามเป็นผู้รับผิดชอบในคดีเบื้องต้น และจะเสนอ ผบ.ตร. ให้ตั้งคณะทำงานในนาม ตร. เพื่อให้พนักงานสอบสวนทั่วประเทศทุกพื้นที่ ที่พบว่ามีโรงแรมหรือร้านค้ากระทำความผิด เป็นพนักงานสอบสวนร่วมด้วย เนื่องจากผู้กระทำความผิดกระจายอยู่ทั่วประเทศ และจะเร่งดำเนินคดีต่อไปให้เร็วที่สุด
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า มีผู้เข้าข่ายกระทำความผิด ทั้งในส่วนของเจ้าของกิจการ ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม และตัวผู้ใช้สิทธิเองด้วย พบการกระทำความผิดหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น รูปแบบแรกคือมีการเข้าพักโรงแรมราคาถูก เช็คอินเข้าโรงแรมแต่ไม่มีการเข้าพัก ซึ่งยังคงได้รับประโยชน์จากคูปองอยู่ แบบที่สองคือโรงแรมขึ้นราคาที่พักอย่างไม่สมเหตุผล เพื่อกินส่วนต่างของงบประมาณที่รัฐบาลสนับสนุน และมีการรู้เห็นเป็นใจกับร้านค้าที่ใช้คูปองด้วย รูปแบบที่สามคือเป็นโรงแรมที่มีตัวตนที่ปิดกิจการไปแล้ว แต่มีการให้เช้าที่พัก มีการเข้าไปเช็คอินด้วย นอกจากนี้ยังพบในรูปแบบอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งกำลังตรวจสอบเพิ่มเติม
สุดท้าย นายยุทธศักดิ์ ได้กล่าวว่า ในความเห็นส่วนตัว ตนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่ผู้กระทำผิดจะไม่ทราบว่าเป็นการโกง ผู้ที่กระทำความผิดจะถูกขึ้นแบล็คลิส และจะถูกตัดสิทธิในการเข้าร่วมโครงการของรัฐบาลในอนาคตต่อไป
ภาพ – กฤติกร จิตติอร่ามกูล