โรงแรมคู่กรณีร่วมเจรจากับ ‘น้องพลอย’ หลังประสบอุบัติเหตุระหว่างฝึกงานในโรงแรม จนต้องถูกตัดนิ้วทิ้ง 4 นิ้ว
จากกรณี น.ส.ตะวันทิพย์ พุ่มฉัตร อายุ 22 ปี นักศึกษาคณะวิทยาการจัดการสาขาการท่องเที่ยวและโรงแรม ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ใน จ.นครสวรรค์ เกิดอุบัติเหตุขณะฝึกงานภายในแผนกซักรีดของโรงแรมโรงแรมแห่งหนึ่ง จ.นครสวรรค์ โดยถูกเครื่องรีดผ้าที่กำลังขัดข้องรีดทับนิ้วมืออยู่นาน เนื่องจากช่างควบคุมเครื่องไม่อยู่ จนต้องใช้วิธีวีดีโอคอลสอบถามวิธีแก้
กระทั่ง สามารถเอามือออกมาได้ แต่เนื่องจากมือมือเข้าไปติดอยู่ในเครื่องรีดอยู่นาน จนความร้อนได้ทำลายเส้นประสาท ซึ่งแพทย์ที่ดูแลไม่สามารถรักษาได้ จึงต้องตัดนิ้วทั้ง 4 นิ้ว เพื่อรักษาชีวิต ทำให้ น.ส.ตะวันทิพย์ กลายเป็นผู้พิการไปตลอดชีวิต อีกทั้ง ยังหมดสิทธิ์สอบเข้าเป็นข้าราชการตามที่ใฝ่ฝัน จึงทำให้มีการโพสต์เฟซบุ๊กทวงถามถึงความรับผิดชอบไปยังโรงแรมที่ฝึกงาน จนเกิดกระแสอยู่บนโลกออนไลน์ ด้วยความเป็นห่วงเกรงว่า น.ส.ตะวันทิพย์ จะไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เวลา 13.30 น. วันนี้ (8 พฤษภาคม 2562) ที่ห้องประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฎนครสวรรค์ ผศ.ดร.บัญญัติ ชำนาญกิจ อธิการบดีมหาวิทยาลัย มีการเชิญ น.ส.ตะวันทิพย์ นักศึกษาที่ที่ประสบอุบัติเหตุระหว่างฝึกงานจนต้องเสียนิ้วมือข้างซ้ายไปถึง 4 นิ้ว กับ นางสุภาพรรณ มาศสุข รองกรรมการผู้จัดการโรงแรมคู่กรณี มาเจรจาในการตกลงให้ความช่วยเหลือและเยียวยาแก่ น.ส.ตะวันทิพย์
โดยในระหว่างการเจรจา ทางรองกรรมการผู้จัดการโรงแรม ได้มีการขอชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ที่ผ่านมา ตั้งแต่เกิดเรื่อง ทางโรงแรมได้ให้การดูแลช่วยเหลือทั้งในเรื่องค่ารักษาพยาบาล และดูแลเยียวยามาโดยตลอด โดยได้พา น.ส.ตะวันทิพย์ ไปพักรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ 20 คืน ที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ 11 คืน
หลังจากนั้น จึงได้เปิดห้องพักของโรงแรมให้ น.ส.ตะวันทิพย์ ได้พักรักษาตัว พร้อมจัดอาหารให้อีก 3 มื้อ บริการรีดเสื้อผ้า ชุดเรียนให้ฟรี โดยในระหว่างนี้ จะมีหัวหน้าแผนกบุคคลและหัวหน้าแม่บ้าน คอยช่วยเหลือนำพา น.ส.ตะวันทิพย์ ไปพบแพทย์เพื่อติดตามอาการเป็นระยะๆ และไปทำธุระที่มหาวิทยาลัย
อีกทั้งยังได้มีการเตรียมจัดหาตำแหน่งงานให้ น.ส.ตะวันทิพย์ ให้มีอนาคตเลี้ยงตนเองและครอบครัวถึง 2 แห่งด้วย ซึ่งขอยืนยันว่า ที่ผ่านมามีการช่วยเหลือและดูแล น.ส.ตะวันทิพย์ มาเป็นอย่างดีสูงกว่ามาตรฐานทั่วไป แต่เนื่องจากห้องพักโรงแรมที่ น.ส.ตะวันทิพย์ พักอยู่นั้น อยู่ร่วมกับผู้จัดการโรงแรมเพื่อช่วยเหลือในการดูแล แต่ น.ส.ตะวันทิพย์ มีความรู้สึกว่าไม่สะดวกและอึดอัด จึงได้แจ้งความประสงค์ขอย้ายออก
จนมาเกิดเป็นข่าวกระจายไปตามสื่อต่างๆ ทำให้ผู้บริหารโรงแรมเกิดความไม่สบายใจอย่างมาก ทั้งที่คอยบริการและดูแล น.ส.ตะวันทิพย์ มาอย่างดีโดยตลอด แม้แต่ญาติและเพื่อนของ น.ส.ตะวันทิพย์ มาเยี่ยมหาในแต่ละวัน ทางโรงแรมก็ยังคอยจัดอาหารตามที่สั่งมาบริการให้ ทางโรงแรมจึงต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม นางสุภาพรรณ มาศสุข รองกรรมการผู้จัดการโรงแรมเป็นตัวแทนในการเจรจาเรื่องการเยียวยา ในการเจรจากันเพื่อหาทางออกในครั้งนี้ เบื้องต้น ทางโรงแรมได้มีการเสนอทำนิ้วเทียม พร้อมกับมีการติดต่อศูนย์สิรินธรในการศึกษาทำนิ้วเทียมให้กับ น.ส.ตะวันทิพย์ 5 ครั้ง หลังจากที่รักษาแผลหายแล้ว
อีกทั้ง ทางโรงแรมมีความยินดีที่จะรับ น.ส.ตะวันทิพย์ เข้าทำงานเป็นพนักงานประจำ โดยสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นพนักงานของโรงแรม หรือเข้าทำงานเป็นพนักงานบริษัทในภายเครือ ส่วนเรื่องค่าสินไหม มีการยื่นข้อเสนอให้เงินจำนวนหนึ่งแล้ว แต่เจ้าตัวยังต้องการเพิ่มอีก เนื่องจากอยากใช้เงินจำนวนนี้ในการศึกษาต่อปริญญาโท ดังนั้น จึงจะมีการเจรจาหาทางออกกันอีกครั้งหนึ่งเพื่อความพอใจทั้งสองฝ่าย