แล้งหนักทะเลสาบดอยเต่ากลายสภาพเป็นทุ่งดินแตกระแหงกว่า 10 กม. กระทบแพท่องเที่ยว-ประมงชาวบ้าน
วันนี้ (9 พ.ค.62) ผู้สื่อข่าว จ.เชียงใหม่ รายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งที่จังหวัดเชียงใหม่รุนแรงหนัก ทะเลสาบดอยเต่าน้ำแห้งกลายเป็นทุ่งกว้างกว่า 10 กิโลเมตร ผู้ประกอบการลากแพนำเที่ยวกระทบหนัก นักท่องเที่ยวหายไปถึงร้อยละ 80 บางรายลากแพตามหาน้ำข้ามจังหวัดกว่า 60 กิโลเมตร
เรือนแพท่องเที่ยวในทะเลสาบดอยเต่า อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ จอดเกยตื้นมาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังจากภัยแล้งทำให้ปริมาณน้ำในทะเลสาบดอยเต่าลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี จนล่าสุดพื้นที่ทะเลสาบกลายสภาพทุ่งกว้าง เหลือเพียงผืนดินที่แตกระแหงจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ลึกเข้าไปจากฝั่งเดิมกว่า 10 กิโลเมตร
ความแห้งแล้งที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบอย่างหนักกับกับแพนำเที่ยวและแพของชาวประมงที่เคยลอยลำหาปลาในทะเลสาบดอยเต่า รวมทั้งหมดกว่า 40 หลัง บริเวณบ้านท่าเดื่อ ที่ต้องเกยตื้นอยู่กลางผืนดิน ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ทำให้บริเวณทะเลสาบดอยเต่า กลายเป็นสุสานสัตว์น้ำ และ ทุ่งเลี้ยงสัตว์ รวมทั้งมีฝูงนกปากห่าง อพยพมาหาอาหารบริเวณดังกล่าว
ส่วนนักท่องเที่ยวที่เคยมาเที่ยวพักผ่อนก็ลดลง ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเรือนแพร้านอาหาร ขณะที่ผู้ประกอบการเรือนแพนำเที่ยวบางราย พากันอพยพ ล่องแพไปตามหาน้ำ ที่อยู่ในเขตพื้นที่แก่งก้อ อุทยานแห่งชาติแม่ปิง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ห่างไปกว่า 60 กิโลเมตร
ทางด้าน นายจเร นันต๊ะสาร ผู้ประกอบการเรือนแพนำเที่ยว เปิดเผยว่า หลังจากที่ปริมาณน้ำลดลงตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ไม่สามารถนำนักท่องเที่ยวไปล่องแพได้ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวลดลงเป็นจำนวนมาก มีเพียงนักท่องเที่ยวบางรายที่เดินทางมารับประทานอาหารแล้วก็กลับไป ขณะที่ต้องนอนเฝ้าทรัพย์สินที่อยู่บนเรือนแพ
แม้จะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวน้อยลง ก็ต้องเตรียมวัตถุดิบรองรับนักท่องเที่ยววันล่ะประมาณ 3 พันบาท บางวันไม่มีนักท่องเที่ยวมาเลยของสดที่เตรียมไว้ก็เน่าเสียหายก็ต้องทิ้งไป จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาแก้ไขปัญหาเบื้องต้นด้วยการทำแก้มลิงชั่วคราวกักน้ำให้แพลอยน้ำ เพื่อลดความเสียหายของเรือนแพที่จอดเกยตื้นอยู่