ประเด็นน่าสนใจ
- นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เผยกัมพูชาจะจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ให้ประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
- เตรียมงบประมาณจัดซื้อวัคซีนระยะแรก จำนวน 1 ล้านโดส เพื่อจัดสรรให้กลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงติดเชื้อสูง
- โดยกัมพูชาจะจัดซื้อวัคซีนเพิ่มเติมในระยะสองประมาณ 2-3 ล้านโดส
พนมเปญ, 8 ธ.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันจันทร์ (7 ธ.ค.) สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เปิดเผยว่ากัมพูชาจะจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ให้ประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เมื่อวัคซีนพร้อมสำหรับการใช้งานแล้ว
ฮุนเซนโพสต์บนเฟซบุ๊กว่าเขาได้แนะนำให้แมม บุญเฮง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของกัมพูชา ปรึกษาหารือกับพันธมิตรเพื่อการพัฒนา โดยเฉพาะองค์การอนามัยโลก (WHO) เพื่อคัดเลือกว่ากัมพูชาควรจัดซื้อวัคซีนจากประเทศผู้ผลิตรายใด
ขณะเดียวกันฮุนเซนแจ้งต่ออุน พรมนนิโรธ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและการคลังของกัมพูชา ให้ดำเนินการจัดเตรียมงบประมาณจัดซื้อวัคซีนระยะแรก จำนวน 1 ล้านโดส เพื่อจัดสรรให้กลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงติดเชื้อสูง โดยวัคซีนจำนวนดังกล่าวสามารถใช้ได้ในประชาชน 500,000 คน เนื่องจากแต่ละคนต้องได้รับวัคซีนจำนวน 2 โดส
“วัคซีนในระยะแรกจะถูกแจกจ่ายให้ประชาชนของเราโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย” นายกฯ กล่าว พร้อมเสริมว่ากัมพูชาจะจัดซื้อวัคซีนเพิ่มเติมในระยะสองประมาณ 2-3 ล้านโดส
“ประเทศของเราขาดแคลนงบประมาณ เราจึงหวังว่าพันธมิตรเพื่อการพัฒนาจะมอบความช่วยเหลือทางการเงิน หรือจำหน่ายวัคซีนให้เราในราคาไม่สูงมากนัก” ฮุนเซนระบุ
กัมพูชาทุ่มเทความพยายามยิ่งยวดในการยับยั้งโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดระดับชุมชนครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 พ.ย. หลังตรวจพบการติดเชื้อของสมาชิกครอบครัว 6 คนที่อาศัยอยู่ในกรุงพนมเปญและจังหวัดเสียมราฐทางตะวันตกเฉียงเหนือ
แถลงการณ์จากกระทรวงสาธารณสุขเมื่อวันจันทร์ (7 ธ.ค.) ระบุว่ามีประชาชนในพนมเปญ มีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวกอย่างน้อย 32 ราย
ทั้งนี้ กัมพูชาสั่งปิดโรงเรียน พิพิธภัณฑ์ โรงภาพยนตร์ และสถานจัดแสดงศิลปะทั่วประเทศ ตลอดจนห้ามการรวมตัวขนานใหญ่และจัดงานแต่งงานในกรุงพนมเปญและจังหวัดเสียมราฐ เพื่อยับยั้งการระบาดของโรคโควิด-19 โดยตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงปัจจุบัน กัมพูชารายงานการตรวจพบผู้ป่วยยืนยันผลสะสม 348 ราย โดยได้รับการรักษาจนหายดีแล้ว 306 ราย และยังไม่มีรายงานผู้ป่วยเสียชีวิต
ที่มา : Xinhua
