ปัญหาขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งที่จังหวัดเชียงใหม่ที่รุนแรงหนัก จนชาวนาถอดใจทยอยขายที่นาหาอาชีพใหม่
วันนี้ (10 พ.ค.62) ผู้สื่อข่าว จ.เชียงใหม่ รายงานว่า ปัญหาขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งที่จังหวัดเชียงใหม่ที่รุนแรงมากขึ้นทุกปี ประกอบกับราคาข้าวที่ตกต่ำและไม่แน่นอน ทำให้ชาวนาหลายอำเภอ ทั้ง อ.แม่ริม อ.สันป่าตอง อ.หางดง และอีกหลายอำเภอที่อยู่นอกเขตชลประทาน และต้องประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอยู่เป็นประจำ เริ่มทยอยประกาศขายที่นา เพราะไม่อาจเสี่ยงกับภัยธรรมชาติและความไม่แน่นอนของราคาผลผลิตได้อีกต่อไป โดยหวังว่าจะนำเงินจากการขายที่นา ไปลงทุนประกอบอาชีพอื่นเริ่มต้นชีวิตใหม่
สำหรับพื้นที่ปลูกข้าวนาปีที่จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่ทั้งหมดราว 4.1 แสนไร่ ในจำนวนนี้อยู่นอกเขตบริการชลประทานกว่า 3 แสนไร่ กระจายอยู่ในทุกอำเภอ ในฤดูแล้งพื้นที่นานอกเขตชลประทานต้องอาศัยน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติและน้ำบาดาลมาหล่อเลี้ยงพื้นที่เพาะปลูก แต่ระยะหลังปัญหาภัยแล้งทำให้น้ำเหลือน้ำเหลือน้อย ส่วนน้ำบาดาลใต้ดินเหือดแห้งไปด้วย บางพื้นที่เจาะไม่เจอน้ำ บางพื้นที่ต้องเจาะต้องเจาะลึกลงไปมากกว่า 100 เมตร เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ทั้งหมดนี้จึงทำให้ชาวนาหลายพื้นที่ตัดสินใจขายที่นา
ขณะที่นายจำรัส ลุมมา ประธานสมาพันธ์เกษตรกรเชียงใหม่-ลำพูน และ ตัวแทนชาวนาจากตำบลแม่แฝก อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ บอกว่า ชาวนาทุกคนไม่ต่องการขายที่ดินทำกิน เพราะเป็นอาชีพที่สืบทอดกันมานานหลายรุ่น จึงต้องการให้รัฐบาลใหม่เข้ามาช่วยเหลือรับประกันราคาข้าวและดูแลกำกับกลไกการตลาด ไม่ให้ถูกเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลาง ให้ชาวนามีรายได้คุ้มต้นทุนและมีกำไรพออยู่ได้ ก่อนที่ทุ่งนาจะถูกขายไปให้กับนายทุนมากกว่านี้