เพจ Watch Dog Thailand จี้เอาผิดคนฆ่าสุนัขพันธุ์บีเกิ้ล สภาพศพหนังหลุดออกเห็นเนื้อ ทิ้งกลางไร่มันสำปะหลังพื้นที่ อ.ภูเวียง
จากกรณีเพจเฟซบุ๊กชื่อ “WATCHDOG THAILAND” โพสต์ภาพสุนัขพันธุ์บีเกิ้ลนอนเสียชีวิตอย่างน่าอนาถ พร้อมข้อความระบุว่า
“บีเกิ้ลวัยสองขวบตายสุดโหด สภาพศพเหมือนถูกแล่เนื้อเถือหนัง WDT รับเรื่องร้องเรียนจากเจ้าของ “กาละแม” บีเกิ้ลน้อยวัยสองขวบ ด้วยความสะเทือนใจและสุดเวทนา เหตุสภาพศพหมาน้อยราวกับถูกแล่เนื้อเถือหนังอย่างโหดเหี้ยมเจ้าของร้องเรียน WDT น้องหมาหายไปเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2562 โดยปกติแล้วมียายขี้เมาแถวบ้าน ชอบมาเยี่ยมมาหา แล้วน้องหมากาละแม ก็มักเดินตามยายไปด้วย
สามวันที่ตามหากะละแมเท่าไหร่ก็ไม่พบ พยายามติดตามถามยายก็อยู่ในอาการมึนเมาปฏิเสธไม่รู้เรื่อง จนกระทั่งเช้าวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 ยายสร่างเมาแล้ว จึงพาไปชี้จุดที่ทิ้งศพน้องหมา WDT ประสาน พ.ต.อ.สุจินต์ ศิริขันธ์ ผกก.สภ. เวียงเก่า ขอนแก่น และ พ.ต.ท.ประภาส โภคาเพชร รองผกก.(สอบสวน) สภ.เวียงเก่า ขอนแก่น มอบหมายพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีรับแจ้งความจากเจ้าของ
พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เตรียมงานสืบสวนและสอบสวนผู้ต้องสงสัย พร้อมญาติของยาย คนบ้านหนองนาคำ ที่เคยบ่นว่าให้เอาหมากลับไป เพราะมาไล่ไก่ไล่ห่านในเขตบ้านของตน งานสืบสวนตำรวจไม่น่าจะยาก ลักษณะบาดแผลถูกปาดด้วยของมีคมไม่เหมือนรอยกัดแทะของสัตว์และ ผู้ต้องสงสัยที่มีเพียงไม่กี่คน ไม่รู้ว่า ณ.ขณะนั้น กาละแมจะต้องเจ็บปวดทรมานแค่ไหน ไม่รู้ว่าจิตใจของคนทำด้วยอะไร จึงทำกับหมาน้อยที่ไร้ทางสู้ได้ถึงขนาดนี้ สู้สู้ครับ ทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวียงเก่า”
ล่าสุดวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบรายละเอียดเรื่องดังกล่าวจาก นางสาวนลิตา ชาดา อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 ม.7 บ้านหม้อ ต.เมืองเก่าพัฒนา อ.เวียงเก่า จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ พ.ต.ท.เลิศฤทธิ์ ภูจริต สว.(สอบสวน) สภ.เวียงเก่า พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจจุดที่พบศพน้องหมานอนตาย ซึ่งจุดที่พบศพน้องหมานั้นเป็นทางเดิน อยู่ริมไร่มันสำปะหลังด้านทิศเหนือของหมู่บ้าน ห่างจากบ้านผู้เสียหายประมาณ 300 เมตร ซึ่งจุดดังกล่าวนั้น ยังคงมีคราบเลือด ขนกระจาย อยู่บนพื้นดินจำนวนมาก
นางสาวลลิตา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ซื้อน้องหมาบีเกิ้ล สุนัขเพศเมีย มาจากงานแสดงสัตว์เลี้ยงที่ห้างสรรพสินค้าในเมืองขอนแก่นเมื่อประมาณ ปลายปี 2562 ในราคา 5,000บาท โดยคนในครอบครัวตั้งชื่อว่า กาละแม นำมาเลี้ยงรวมกับน้องหมาที่มีอยู่เดิมแล้ว 3 ตัว ต่อมาน้องกาละแมมีลูกเป็นเพศผู้ 1 ตัวชื่อโซฟา จึงเลี้ยงคู่กันมารวมเป็น 5 ตัว ตลอดเวลาที่เลี้ยงมา จะมีเพื่อนบ้านชื่อยายหนุ่ย ขี้เมาประจำหมู่บ้าน มักจะมาเล่นกับน้องหมา จนเป็นที่คุ้นเคยกันและเคยพาน้องหมาไปเล่นที่บ้านตัวเองด้วย
วันเกิดเหตุคือวันที่ 7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ช่วงเช้าได้ให้อาหารน้องหมาตามปกติ จากนั้นก็ไปเยี่ยมมารดา กลับเข้าบ้านประมาณ 2 ทุ่ม ก็ให้อาหารน้องหมา แต่ไม่พบน้องกาละแม จึงเดินตามหา ซึ่งทราบจากญาติว่า น้องกาละแมเดินตามนยายหนุ่ยไปต้องแต่ช่วงเช้า และยังไม่เห็นกลับมา เมื่อไปถามยายหนุ่ยที่บ้าน แต่ก็พบว่ายายหนุ่ยอยู่ในสภาพเมา พูดคุยพอจับใจความได้ว่า พาน้องหมามาบ้าน แต่ไม่ได้ไปส่ง
เย็นวันที่ 8 พฤษภาคม ยายหนุ่ยไปหาที่บ้านและบอกว่า น้องหมาไปเข้าฝันว่าตายอยู่ข้างไร่มันสำปะหลัง แต่ทุกคนไม่เชื่อเพราะคิดว่ายายหนุ่ยเมา แต่หลานๆก็ออกไปตามหาตามที่ยายหนุ่ยบอก แต่มืดค่ำก่อนจึงกลับมาที่บ้าน เช้าวันที่ 9 ยายหนุ่ยมาหาที่บ้านแต่เช้า
พร้อมทั้งบอกว่า เจอร่างน้องกาละแมนอนตายอยู่ข้างทางใกล้ไร่มันสำปะหลัง พร้อมทั้งพาไปดูจุดที่พบศพน้องหมา เมื่อไปถึงก็พบสภาพน้องหมาในสภาพนอนหมอบราบกับพื้นดิน เนื้อตัวเริ่มบวม เลือดไหลลงพื้นที่ มีบาดแผลคล้ายถูกฟันที่บริเวณสันหลังช่วงใกล้กับหาง และคล้ายถูกถลกหนังหายไป ถึงต้นคอ เหลือเพียงเหนือกับกระดูกสันหลัง ตกใจมากไม่คิดว่าน้องหมาจะถูกฆ่าโหดร้ายเช่นนี้
นางสาวลลิตา เปิดเผยต่ออีกว่า หลังเห็นศพน้องหมาแล้ว จึงนำร่างกลับไปฝังที่บริเวณบ้านพักของตัวเอง และเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวียงเก่า ให้มีการสืบสวนสอบสวน จับกุมคนที่ฆ่าน้องหมา มารับโทษตามกฎหมาย เพราะเชื่อว่า คนที่ทำแบบนี้ต้องมีจิตใจที่เหี้ยมมาก ขณะที่น้องโซฟา สุนัขเพศผู้ ลูกของแม่กาละแม หลังแม่ตายไป และเจ้าของนำร่างมาฝังที่บ้าน น้องโซฟาก็ไม่ยอมกินข้าวกินน้ำ นอนซมทั้งวัน กระทังทีมข่าวไปที่บ้าน น้องจึงลุกขึ้นมาทักทายตามที่เห็น
ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปที่บ้ายยายหนุ่ย หรือนางระนอง ทุมแก้ว อายุ 60 ปี ซึ่งอยู่บ้ายไม่มีเลขที่ ห่างจากบ้านผู้เสียหายประมาณ 1 กม.จากการสอบถามในเบื้องต้น ยายหนุ่ย กล่าวว่า เช้าวันที่ 7 พฤษภาคม ออกจากบ้านไปหาแฟน ซึ่งมีที่พักใกล้บ้านผู้เสียหาย เจอกน้องหมาอยู่ที่บ้าน ก็เล่นกันตามปกติ สายเดินกลับบ้าน ก็มีน้องหมาชื่อกาละแมกับลูกชื่อโซฟาตามกลับบ้านด้วย แต่ตัวเองเมา จึงไม่ได้ไปส่งน้องหมา กระทั่งเจ้าของน้องหมา มาตามหาจึงรู้ว่าหมาหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวยายหนุ่ยไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เสียงเก่า
พ.ต.ท.เลิศฤทธิ์ ภูจริต สว.(สอบสวน) สภ.เวียงเก่า กล่าวกับผู้สื่อข่าวขณะลงพื้นที่ตรวจจุดที่พบศพน้องหมา รวมถึงการลงพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้าน ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ทำการสืบสวนสอบสวน พยาน ตามคำให้การของผู้เสียหาย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่า มีผู้ต้องสงสัยกี่ราย ใครบ้าง ในขณะเดียวกันก็มีเบาะแสว่า มีคนได้ยินเสียงน้องหมาร้องในช่วงบ่ายวันที่ 7 พฤษภาคม และเห็นคนใช้มีดดายหญ้าฟันน้องหมา
ซึ่งต้องสืบสวนว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใคร เหตุใดจึงใช้มีดฟันน้องหมา และเป็นน้องหมาตัวเดียวกับน้องกาละแมหรือไม่ และใครเป็นคนนำร่างน้องกาละแมไปทิ้งไว้ที่ไร่มันสำปะหลัง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนและสอบสวน ซึ่งในคดีการตายของน้องหมากาละแมนั้น คนทำจะมีความผิดทั้งแพ่งและอาญา เพราะน้องหมาเป็นทรัพย์สินที่มีการซื้อมา เจ้าของสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ ส่วนความปิดทางอาญานั้น เป็นความตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ และหากจับกุมผู้ต้องหาที่ฆ่าน้องหมาในครั้งนี้ก็จะถูกแจ้งข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ มีโทษจำคุก 3 ปี และข้อหาทารุณกรรมสัตว์ มีความผิดทั้งจำทั้งปรับ โทษปรับไม่เกิน 40,000บาท จำคุก 2 ปี