ข่าวจังหวัดกาญจนบุรี ข่าวสดวันนี้ ข่าวอุบัติเหตุ

เปิดแชทพริ๊ตตี้สาว เผยต้นเหตุรถเสียหลัก ก่อนชนท่อระบายน้ำเสียชีวิต!

จากกรณีที่เกิดเหตุสลด กลุ่มพริ๊ตตี้สาวจำนวน 6 คนประสบอุบัติเหตุรถคว่ำลงข้างทาง ก่อนชนเข้ากับท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ ขณะกำลังเดินทางไปทำงานในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี จนเป็นเหตุทำให้มี 1 ในสาวพริ๊ตตี้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อคือ น.ส.เกตุมณี เทพณรงค์ อายุ 22…

Home / NEWS / เปิดแชทพริ๊ตตี้สาว เผยต้นเหตุรถเสียหลัก ก่อนชนท่อระบายน้ำเสียชีวิต!

ประเด็นน่าสนใจ

  • พริ๊ตตี้สาวประสบอุบัติเหตุรถคว่ำจนมีคนบาดเจ็บ-เสียชีวิต
  • ข้อความหลุดแชทผู้เสียชีวิต อ้างมีการเสพยาภายในรถ
  • การเสพยาแล้วขับรถ เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติด มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 10,000 บาทถึง 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

จากกรณีที่เกิดเหตุสลด กลุ่มพริ๊ตตี้สาวจำนวน 6 คนประสบอุบัติเหตุรถคว่ำลงข้างทาง ก่อนชนเข้ากับท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ ขณะกำลังเดินทางไปทำงานในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี จนเป็นเหตุทำให้มี 1 ในสาวพริ๊ตตี้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อคือ น.ส.เกตุมณี เทพณรงค์ อายุ 22 ปีนั้น

วันนี้ (11 พ.ค. 2562) ได้มีการเปิดเผยข้อมูลที่คาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุดังกล่าว โดยข้อมูลที่ถูกนำมาเปิดเผยเป็นข้อความที่ผู้ตายคือ น.ส.เกตุมณี ได้มีการแชทพูดคุยกับเพื่อนสนิท ระหว่างที่โดยสารอยู่บนรถ ซึ่งในข้อความนั้นมีการระบุว่า เธอกังวลใจเป็นอย่างมากที่จะไม่ไปถึงที่หมาย เพราะเธออ้างว่าคนขับรถมีการใช้สารเสพติดด้วยขณะขับรถ

อย่างไรก็ดีข้อความดังกล่าวจะเป็นจริงหรือไม่ คงต้องรอการสืบสวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ขณะนี้เตรียมจะเรียกผู้รอดชีวิตทั้ง 5 รายมาสอบสวนอีกครั้ง หากทั้งหมดมีอาการบาดเจ็บดีขึ้นแล้ว

สำหรับในทางกฎหมายการเสพยาแล้วขับรถยนต์ ถ้าเสพยาบ้า(ประเภท 1) ขณะขับรถยนต์ 🚖 เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ 2522 มาตรา 57 มาตรา 91 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 10,000 บาทถึง 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

และถ้ากรณีเป็นผู้ประจำรถ ยังเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 102 (3ทวิ) , มาตรา 127 ทวิวรรคสองอีก ซึ่งต้องระวางโทษตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ แต่ถ้าผู้นั้นเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถ ต้องระวางโทษสูงกว่าที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ อีก 1 ใน 3

ตามฎีกาที่ 2255/2543 , 5172/2559

กรณีเป็นผู้ประจำรถ ตามมาตรา 43 ทวิ วรรคหนึ่ง พิจารณาดูเพียงว่า ผู้เสพเป็นผู้ขับหรือไม่เท่านั้น ไม่ว่าจะเสพขณะหรือก่อนหน้านี้ และไม่ได้บัญญัติว่าต้องขับรถในทางสาธารณะเท่านั้น ฎีกาที่ 5172/2559

ถ้าการกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่จำเลย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 แต่เนื่องจากความผิดตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบกฯ และ พระราชบัญญัติการขนส่งทางบกฯ

#ซึ่งเป็นบทหนักมีอัตราโทษเท่ากัน ศาลก็จะลงโทษตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบกฯ ประกอบกับ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฯ โดยศาลต้องพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของจำเลย มีกำหนดไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

ข้อมูลบางส่วนจาก POOM LAWS & BUSINESS