พลภูมิ แนะประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย ต้องฟังเสียงหัวใจตัวเองที่เคยสัญญากับประชาชนด้วย เพราะคนเราที่สุดแล้วไม่ควรโกหกตัวเอง
ดร.พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย แสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์การเมืองของประเทศในช่วงเวลานี้ว่า กกต.ได้มีการประกาศรับรองส.ส.อย่างเป็นทางการแล้ว ทำให้ในทางคณิตศาสตร์ ตัวเลขส.ส.ของแต่ละพรรคถือว่านิ่งแล้ว การจัดตั้งรัฐบาลจึงมีความชัดเจนมากขึ้น พรรคเพื่อไทยและพรรคการเมืองพันธมิตร ที่ยึดถือระบอบประชาธิปไตยเป็นหัวใจหลัก รวม 7 พรรค ได้ประกาศจับมือเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ตั้งแต่มีผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งจุดยืนของเรา ณ เวลานี้ก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตาม นายพลภูมิ มองว่า สภาชุดที่กำลังจะเข้ามาทำหน้าที่ ถือว่าเป็นชุดประวัติศาสตร์ที่มีพรรคการเมืองเข้ามามากที่สุด ทั้งนี้เป็นไปตามการออกแบบรธน.และวิธีการคำนวณส.ส.ที่ไม่ต้องการให้คะแนนทิ้งน้ำ เลยทำให้พรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงจากประชาชนมาก ต้องแบ่งคะแนนไปให้พรรคเล็กที่ได้คะแแนนไม่ถึงส.ส.พึงมี นับว่าเป็นกติกาที่เป็นธรรมแบบประหลาด
ขณะที่การรวมเสียงจากฝ่ายเดินหน้าประชาธิปไตยที่มีเพื่อไทยเป็นแกนนำ ณ เวลานี้ยังมั่นใจในจำนวนตัวเลข และไม่กังวลต่องูเห่าที่จะเกิดขึ้น เพราะยุคนี้ประชาชนรู้ทัน และพร้อมลงโทษส.ส.ที่ทรยศต่อประชาชน ส่วนอีกฝ่ายที่มีภาพการสืบทอดอำนาจ และได้คะแนนเสียงน้อยกว่า ก็ยังเดินหน้ารวมเสียงตั้งรัฐบาล เมื่อเป็นเช่นนี้ พรรคประชาธิปัตย์ และ พรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีตัวเลขส.ส.ที่สามารถสร้างเสถียรภาพให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ในการเป็นรัฐบาล แต่ยังไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจนทางการเมือง
“ผมอยากเรียกร้องให้ ประชาธิปัตย์ พรรคการเมืองเก่าแก่ที่ยึดถืออุดมการณ์เสรีประชาธิปไตย รวมถึงพรรคภูมิใจไทยที่ประกาสฟังเสียงประชาชน ต้องตัดสินใจนำประเทศออกจากเชื้อเผด็จการอย่างเด็ดขาด ด้วยการไม่ไปร่วมเป็นส่วนสำคัญในการสืบทอดอำนาจของคสช.ในรูปแบบพรรคการเมือง
ขอให้ตัดสินใจมาร่วมสร้างประชาธิปไตย จับมือปิดประตูวงจรอุบาทว์ พาประเทศเดินหน้าสู่เสถียรภาพมีรัฐบาลที่เข้มแข็ง ด้วยการเลือกฝ่ายบริหารด้วยส.ส.ที่มาจากประชาชน อย่างแท้จริง ปิดสวิตซ์ ส.ว.แต่งตั้งจากคสช. ไม่ให้มีโอกาสใช้อำนาจหนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯต่ออีก สำคัญที่สุดคือต้องฟังเสียงหัวใจตัวเองที่เคยสัญญากับประชาชนด้วย เพราะคนเราที่สุดแล้วไม่ควรโกหกตัวเอง”