นายอานนท์ นำภา พร้อมด้วยแกนนำ รวม 5 คน เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ความผิดตามมาตรา 112 หลังตำรวจนครบาลชนะสงคราม ออกหมายเรียก กรณีปราศรัยเมื่อวันที่ 19-20 กันยายนที่ผ่านมา
วันนี้ (30 พ.ย.63) ที่ สถานีตํารวจนครบาลชนะสงคราม ( ชั่วคราว) นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน พร้อมด้วย นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง นายอานนท์ นำภา นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือ หมอลำแบงค์ และ นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เดินทาง เข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม หลังออกหมายเรียกกลุ่มแกนนำ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีปราศรัยระหว่างการชุมนุม ที่ ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 19 – 20 กันยายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้นายอานนท์ ยืนยันว่า ส่วนตัวไม่เป็นกังวลที่ถูกใช้มาตรา 112 มาดำเนินคดี พร้อมต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม เพราะมั่นใจในพยานหลักฐานที่ตัวเองมี ว่าไม่ได้กระทำผิด และทั้งนี้ยังยืนยันว่า แกนนำจะยังคงยึดมั่นในแนวทางชุมนุมอย่างต่อเนื่อง โดยจากนี้ไป จะมีแนวทางการเคลื่อนไหวที่เข้มข้นมากขึ้น
ด้านนายภาณุพงศ์ จาดนอก กล่าวว่า การที่ตนเองกับพวกถูกแจ้งข้อกล่าวหามาตรา 112 ย้อนหลัง มองว่าน่าจะเป็นคำสั่งของใคร ซึ่งกลุ่มของตนเองก็จะต้องมีการหาข้อเท็จจริงแต่อย่างไรเชื่อว่าแม้จะมีการใช้มาตรา 112 เพื่อดำเนินคดีก็ไม่สามารถหยุดการเคลื่อนไหวของนักกิจกรรมทางการเมืองได้ และมองว่าเป็นอีกหนึ่งกฎหมายที่จะต้องถูกยกเลิก
ส่วนด้าน นายพริษฐ์ เปิดเผยว่า ส่วนตัว ยังไม่ทราบรายละเอียดที่ถูกดำเนินคดีว่า เป็นกรณีไหนบ้าง แต่ก็ยืนยัน จะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ส่วน นางสาวปนัสยา ให้ความเห็นว่า แม้จะถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 แต่จะยังคงยึดมั่นแนวทางการเคลื่อนไหว 3 ข้อเรียกร้อง โดยเฉพาะ การปฏิรูปสถาบันต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม ยังพบ นายพริษฐ์ มีการกระทำความผิด เข้าข่ายมาตรา 112 อีก 1 คดี จากการชุมนุม เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน บริเวณแยกคอกวัว ซึ่งคดีนี้ พนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมและสำหรับนายพริษฐ์ ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่า พนักงานสอบสวนพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด และอุบลราชธานี ได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมไปก่อนหน้านี้แล้ว
ภาพ : วิชาญ โพธิ