ประเด็นน่าสนใจ
- ’ศรีสุวรรณ’ ระบุ การ์ดคณะราษฎร กระทำผิดกฎหมายเหตุใส่เสื้อเกราะ
- ชี้เสื้อเกราะ เป็นยุทธภัณฑ์ ตามประกาศกระทรวงกลาโหม ประชาชนทั่วไปไม่สามารถจัดซื้อจัดหามาใช้เองได้
- ย้ำหากไม่ดำเนินการย่อมมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตาม ป.อ.157 ด้วยเช่นกัน
วันนี้ (30 พ.ย.63) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีกลุ่มบุคคลรวมตัวกันทำหน้าที่เป็นฝ่ายรักษาความปลอดภัย หรือ การ์ดให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ที่เรียกตนเองว่า “คณะราษฎร 2563” ในพื้นที่จัดการชุมนุมต่างๆ ได้จัดหา “เสื้อเกราะ” มาสวมใส่อยู่ตลอดเวลา ล่าสุดคือการชุมนุมที่บริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 11 เขตบางเขน มีการ์ดของคณะราษฎรและประชาชนทั่วไปที่มาร่วมชุมนุมนำเสื้อเกราะมาใส่อย่างเปิดเผยนั้น
เสื้อเกราะดังกล่าว ถือว่าเป็นยุทธภัณฑ์ ตามประกาศกระทรวงกลาโหม เรื่อง กําหนดชนิดยุทธภัณฑ์ที่ต้องขออนุญาต ตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 ลงวันที 30 พ.ย.2550 ซึ่งถือว่าเป็นกฎหมายควบคุม ดูแล โดยเฉพาะ ประชาชนทั่วไปไม่สามารถจัดซื้อจัดหามาใช้เองได้ เพราะ “เสื้อเกราะ” เป็นยุทธภัณฑ์ควบคุม ภายใต้ พรบ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530
ซึ่งกำหนดให้มีได้เฉพาะส่วนราชการทหาร ตำรวจ ส่วนราชการ องค์การของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ที่มีภารกิจในการป้องกัน ปราบปรามและเสี่ยงภัย และไม่อนุญาตให้บุคคลทั่วไปมีไว้ในครอบครอง หากประชาชนหรือบุคคลทั่วไปต้องการที่จะสั่งเข้ามา นำเข้ามา ผลิต หรือมีใช้ จะต้องได้รับใบอนุญาตจากปลัดกระทรวงกลาโหมเสียก่อน
ตาม ม.15 ที่บัญญัติว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดสั่งเข้ามา นำเข้ามา ผลิต หรือมีซึ่งยุทธภัณฑ์ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากปลัดกระทรวงกลาโหม” หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากถูกเจ้าหน้าที่ตรวจจับได้จะถูกริบเสียทั้งสิ้น ไม่ว่าจะถูกลงโทษตามคำพิพากษาของศาลหรือไม่
ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของตำรวจ ทหาร หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ถูกแต่งตั้งตามกฎหมายยุทธภัณฑ์ เช่น เหล่าผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารทั้งหลาย ผู้ว่า กทม. ปลัด กทม. และผู้อำนวยการเขตต่าง ๆ จะต้องเร่งดำเนินการ สืบหา จับกุม และตรวจค้นแหล่งที่มาของเสื้อเกราะดังกล่าว ที่การ์ดคณะราษฎรจัดซื้อจัดหาและนำมาใช้ เพื่อบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดต่อไป หากไม่ดำเนินการย่อมมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตาม ป.อ.157 ด้วยเช่นกัน นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด
ที่มา : ศรีสุวรรณ จรรยา