พรรคภูมิใจไทย อนุทิน

‘อนุทิน’ สั่งลูกพรรคลงพื้นที่ฟังเสียงประชาชน เผย 20 พ.ค. ชัดเจนขึ้น

“อนุทิน” สั่งลูกพรรคลงพื้นที่ฟังเสียงประชาชน เผย 20 พ.ค. นี้ พรรคภูมิใจไทย พร้อมกำหนดท่าทีเบื้องต้นชัดเจนขึ้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวหลังรับเอกสารรับรองการเป็น ส.ส.ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ถึงทิศทางการเมือง ว่า…

Home / NEWS / ‘อนุทิน’ สั่งลูกพรรคลงพื้นที่ฟังเสียงประชาชน เผย 20 พ.ค. ชัดเจนขึ้น

“อนุทิน” สั่งลูกพรรคลงพื้นที่ฟังเสียงประชาชน เผย 20 พ.ค. นี้ พรรคภูมิใจไทย พร้อมกำหนดท่าทีเบื้องต้นชัดเจนขึ้น

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวหลังรับเอกสารรับรองการเป็น ส.ส.ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ถึงทิศทางการเมือง ว่า ตอนนี้พรรคยังไม่พูดคุยกับใครเรื่องจัดตั้งรัฐบาล ส่วนการที่พรรคพลังประชารัฐ บอกว่าเราไปอยู่กับเขาแล้ว ขอบอกว่า เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น ตนบอกให้ลูกพรรคลงพื้นที่ขอบคุณประชาชน และรับฟังเสียงของประชาชน ซึ่งเป็นคนที่เลือกเรามา เราจะได้ทราบว่า ประชาชนอยากให้เราเดินหน้าอย่างไร

ส่วนความเห็นในโซเชียลมีเดีย พรรครับฟัง แต่ต้องนำไปประกอบกับเสียงของประชาชนในพื้นที่ด้วย ซึ่งเราจะมีการประชุมเรื่องนี้อีกครั้งในวันที่ 20 พฤษภาคม และพรรคจะมีท่าทีที่ชัดเจนขึ้น ในเรื่องจะให้กลุ่มขั้วที่สามตั้งรัฐบาล เราต้องให้ขั้วที่ 1 ที่ 2 จัดตั้งกันไปก่อน จากประสบการณ์ คงไม่มาถึงพรรคอันดับ 4 อันดับ 5 เมื่อถามว่ามีการทาบทามจากพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า ยังไม่มีการทาบทามจากใครทั้งสิ้น

นอกจากนั้น นายอนุทิน ยังกล่าวถึงข่าวเรื่อง นายเนวิน กำลังจัดตั้งรัฐบาลว่า เป็นเพียงการพูดกันไปเรื่อย ส่วนตัวไม่ได้เจอท่านมา 2 อาทิตย์แล้ว และปัจจุบันท่านก็อยู่ต่างประเทศ ขอย้ำว่าเรามีนโยบายของเรา มีเงื่อนไขของเรา 4 ข้อ ถ้าหากรับกันได้ ให้เกียรติกัน ก็ร่วมงานกันได้ กรณี 11 พรรคเล็ก ได้ ส.ส. เราขอแสดงความยินดีกับท่านด้วย

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า อยากเห็นรัฐบาลที่มีความมั่นคง นายกรัฐมนตรีมีเสียงไว้วางใจจากสภาผู้แทนราษฎรอย่างท่วมท้น เพื่อให้การบริหารประเทศเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ ส่วนตัวอยากเห็นสภาเปิด มี ส.ส. มีคณะรัฐมนตรี มีฝ่ายค้าน มีฝ่ายรัฐบาล เข้าไปทำงาน ส่วนพรรคภูมิใจไทย จะเดินหน้านโยบายตามที่หาเสียงไว้ ทั้งเรื่องของกัญชาเสรี, แกร๊บถูกกฎหมาย, พักหนี้ กยศ., แบ่งปันผลกำไรการเกษตร, เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ หากเป็นรัฐบาล เราจะทำนโยบายได้ง่ายกว่า แต่ถึงเป็นฝ่ายค้าน เราจะผลักดันนโยบายแน่นอน เพราะเรามีเสียง 50 กว่าเสียงแล้ว ย่อมเสนอกฎหมายได้