ข่าวจังหวัดสมุทรปราการ ข่าวสดวันนี้ น้องอาม

จับได้แล้ว 1 คนร้ายฆ่า ด.ช.วัย 13 ปี อ้างไม่พอใจขี่รถมองหน้า

วันนี้ (13 พ.ค. 62) จากเหตุการณ์สุดเศร้า เมื่อเพจ รถตระเวนข่าว V.2 ได้มีการเปิดเผยเรื่องราวว่า มีเด็กชายวัย 13 รายหนึ่งถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายจนเสียชีวิต เนื่องจากไม่พอใจที่ผู้ตายมองหน้าระหว่างที่ดันรถเพื่อนที่น้ำมันหมดไปส่งบ้าน โดยเหตุเกิดขึ้นที่บริเวณ ซอยบางปลา…

Home / NEWS / จับได้แล้ว 1 คนร้ายฆ่า ด.ช.วัย 13 ปี อ้างไม่พอใจขี่รถมองหน้า

ประเด็นน่าสนใจ

  • เด็กชายวัย 13 ปี ถูกกลุ่มโจ๋เมาเหล้าทำร้ายเสียชีวิต
  • คาดคดีนี้เข้าข่ายความผิดกฎหมายอาญามาตรา 290 โทษคุกตั้งแต่ 3-15ปี

วันนี้ (13 พ.ค. 62) จากเหตุการณ์สุดเศร้า เมื่อเพจ รถตระเวนข่าว V.2 ได้มีการเปิดเผยเรื่องราวว่า มีเด็กชายวัย 13 รายหนึ่งถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายจนเสียชีวิต เนื่องจากไม่พอใจที่ผู้ตายมองหน้าระหว่างที่ดันรถเพื่อนที่น้ำมันหมดไปส่งบ้าน

โดยเหตุเกิดขึ้นที่บริเวณ ซอยบางปลา 12 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2562 ที่ผ่านมา จากนั้นเวลาต่อมาผู้ปกครองของเด็กชายวัย 13 ปีคนดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความเรียกร้องให้ผู้ก่อเหตุออกมายอมรับผิด และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและหาคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายนั้น

ล่าสุดมีรายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับตัว 1 ในผู้ก่อเหตุได้แล้ว พบว่าเป็นกลุ่มแก๊งอันธพาลในพื้นที่ซอยบางปลา โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับได้ สารภาพว่าได้ร่วมกับเพื่อนรุ่นพี่อีก 3 คนอายุ 19 -23 ปี ลงมือก่อเหตุจริง

ซึ่งก่อนเกิดเหตุได้นั่งตั้งวงดื่มสุรากัน จากนั้นพอเมาได้ที่ก็พากันขี่รถเล่นและหาเรื่องคนอื่นไปด้วย ก่อนจะมาพบผู้ตายและเพื่อนขี่รถอยู่บนถนนจึงเข้าไปหาเรื่องและทำร้ายจนเสียชีวิตดังกล่าว ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวไว้เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อติดตามล่าตัวคนร้ายที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับว่าเป็นเหตุอุกฉกรรจ์และน่าหวาดกลัวมาก เพราะผู้ก่อเหตุแม้จะไม่ได้หมายเอาชีวิต แต่พวกเขาก็ดูตั้งใจทำให้เจ็บสาหัส ซึ่งในทางการกฎหมายแล้วถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 ที่ระบุว่า “ผู้ใดมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี

ถ้าความผิดนั้นมีลักษณะประการหนึ่งประการใด ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 289 ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงยี่สิบปี” ดังคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ได้วินิจฉัยไว้ เช่น

ขับรถไล่ทำร้ายผู้ตายในระยะกระชั้นชิด ทำให้ผู้ตายต้องขับรถด้วยความเร็วเพื่อหลบหนีจนเกิดเหตุชนรถยนต์ที่จอดอยู่เสียชีวิต จึงต้องรับผิดฐานทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามมาตรา 290

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 21379/2556

การที่จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ไล่ทำร้ายผู้ตายกับพวกในระยะกระชั้นชิดโดยถือไม้ถูพื้นชูออกนอกรถยนต์เพื่อข่มขู่ผู้ตายกับพวกไปตลอดทาง โดยมีเจตนาจะทำร้ายผู้ตายกับพวก

และผลจากการกระทำดังกล่าวทำให้ผู้ตายต้องขับรถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วสูงเพื่อหลบหนีการถูกไล่ทำร้ายจนเกิดเหตุชนกับรถยนต์กระบะที่จอดอยู่

จำเลยที่ 1 และที่ 2 ย่อมเล็งเห็นผลได้ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้ผู้ตายได้รับอันตรายสาหัสและถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา จำเลยที่ 1 และที่ 2 ย่อมมีความผิดฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายตาม ป.อ. มาตรา 290

และ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2503

จำเลยใช้กำลังทำร้ายโดยแรง เป็นเหตุให้ศีรษะผู้ตายฟาดหรือกระแทกกับพื้นถนนเข็งกระโหลกศีรษะแตกถึงตาย เป็นผลที่บังเกิดอันเนื่องจากการกระทำของจำเลย จำเลยย่อมมีผิดฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา

ข้อมูลข่าวจาก เพจ รถตระเวนข่าว V.2