ประเด็นน่าสนใจ
- ’วิษณุ เครืองาม’ เผยกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมใช้ธนบัตรราษฎร หรือ คูปองเป็ด แลกซื้อของภายในกิจกรรมการชุมนุม ชี้ส่วนตัวมองว่าไม่มีจุดมุ่งหมายให้เป็นเงิน
- ไม่มีเจตนาไปถึงขั้นนำไปแทนธนบัตรชำระหนี้ตามกฏหมาย และยังไม่เข้าข่ายเป็นเงินปลอม
- ไม่ออกความเห็น กรณี ‘ส.ศิวรักษ์’ ปราศรัยตำหนินายกรัฐมนตรีที่นำมาตรา 112 มาดำเนินคดีกับแกนนำผู้ชุมนุม
วันนี้ (26 พ.ย. 2563) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมใช้ธนบัตรราษฎร หรือ คูปองเป็ด แลกซื้อของภายในกิจกรรมการชุมนุม ซึ่งหลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าเข้าข่ายผิดพ.ร.บ.เงินตรา พ.ศ. 2501 หรือไม่นั้นว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดแต่ก็ได้ติดตามข่าว
ส่วนตัวคิดว่า ไม่มีจุดมุ่งหมายให้เป็นเงิน เพราะบางคน ได้รับก็ฉีกทิ้ง หรือเก็บไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของแต่ละคน ตนเชื่อว่า ไม่มีเจตนาไปถึงขั้นนำไปแทนธนบัตรชำระหนี้ตามกฏหมาย และยังไม่เข้าข่ายเป็นเงินปลอม เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่
นอกจากนี้ นายวิษณุ กรณีถึง ‘ส.ศิวรักษ์’ ปราศรัยตำหนินายกรัฐมนตรีที่นำมาตรา 112 มาดำเนินคดีกับแกนนำผู้ชุมนุมว่า ตนไม่มีความเห็นในเรื่องนี้ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามมาตรานี้ก็ไม่เป็นไร มีกระบวนการที่ยังใช้อยู่ในปัจจุบัน ส่วนจะใช้หรือไม่ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของเหตุการณ์
โดยหากมีการพูดคุยกันถึงขั้นเข้าข่ายมาตรานั้นจริงๆ จะละเว้นไม่ได้ พร้อมย้ำกระบวนการในการดำเนินการยังคงมีอยู่ ไม่ใช่ว่าใครคิดจะทำก็ทำได้ ซึ่งกฎหมายมาตรานี้ต่างจากประมวลกฎหมายอาญา 300 กว่ามาตรา โดยมาตรา 112 มีกระบวนการเพื่อกลั่นกรองไม่ให้มีเรื่องเกิดขึ้นได้โดยง่าย และไม่ใช่ว่าจะปรับ ตัด หรือทิ้งไป ซึ่งรายละเอียดขอให้ทางตำรวจเป็นผู้อธิบาย
ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า พนักงานสอบสวนเตรียมดำเนินคดีกับผู้ที่นำคูปองเป็ดมาใช้แลกซื้อของกับร้านซีไอเอ ในการชุมนุมเมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา รวมทั้งจะพิจารณาข้อความที่อยู่บนคูปองเป็ดด้วยว่าเข้าข่ายผิดตามมาตรา 112 หรือไม่