ครม. อนุมัติมาตรการทางภาษี จูงใจสำหรับผู้ประกอบการที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมอนุมัติทดลองเปิดด่านสะเดา 24 ชั่วโมงเป็นเวลา 3 เดือน
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ในส่วนของประเด็นเศรษฐกิจ โดยที่ประชุมเห็นชอบ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มาตรการทางภาษีเพื่อจูงใจให้ผู้ประกอบการ ห้างหุ้นส่วน หรือนิติบุคคล ที่เข้าร่วมโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ให้สามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักภาษีเงินได้นิติบุคคล จากกำไรสุทธิ ใน 3 รอบบัญชี ตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ซึ่งประมาณการว่ามาตรการดังกล่าวจะทำให้รัฐสูญเสียการจัดเก็บภาษีลดลงราว 280 ล้านบาท
พร้อมกันนี้คณะรัฐมนตรียังอนุมัติ ให้มีการทดลองเปิดด่านศุลกากรสะเดา-บูกิตกายูฮิตัม เป็น 24 ชั่วโมง จากเดิมที่เปิดบริการตั้งแต่เวลา 5.00 น.จนถึง 23.00 น เป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อลดปริมาณการจราจรที่หนาแน่นบริเวณหน้าด่าน ซึ่งจะเป็นการเปิดเฉพาะรถบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่เท่านั้นและจำกัด คน เข้าออก 2 คนต่อ 1 คัน โดยไม่รวมรถบรรทุกขนาดเล็ก หรือรถยนต์ส่วนบุคคล
ซึ่งประมาณการผู้ประกอบการจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในด้านการขนส่งลงไปได้ถึง 4 แสนบาทต่อวัน และเพิ่มศักยภาพการค้าชายแดนอีกร้อยละ 5 โดยปัจจัยด้านความเสี่ยง คือ ต้องเฝ้าระวังสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้าน การลักลอบการดำเนินการสิ่งของผิดกฎหมายและการใช้โครงสร้างพื้นฐานเกินศักยภาพ ซึ่งอยู่ในวิสัยที่สามารถควบคุมได้
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ การอนุญาตร่างกฎกระทรวงการประกอบธุรกิจที่ไม่ต้องขออนุญาตของคนต่างด้าว ซึ่งจะมีการทบทวนทุกปีโดยในปีนี้อนุญาตให้ต่างด้าวสามารถประกอบธุรกิจได้ คือ ธุรกิจบริการให้กู้ยืมเงินบริษัทในเครือธุรกิจของบริษัทต่างประเทศ การให้เช่าพื้นที่อาคารสำนักงานสาธารณูประโภค และการให้บริการด้านคำปรึกษาของบริษัทในเครือในกลุ่ม เฉพาะด้าน อาทิ การตลาด ทรัพยากรบุคคล และด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยมองว่า 3 ธุรกิจดังกล่าว ไม่กระทบต่อกิจการ หรือธุรกิจของคนไทย เพราะเป็นการจำกัดให้บริการแค่ในกลุ่มเท่านั้น