โผล่อีก!! แท็กซี่เมืองพัทยา ปิดล้อมรถหนุ่มแกร็บคาร์จนชกต่อยกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าระงับเหตุ เบื้องต้นแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายดำเนินคดีทั้ง 2 ฝ่าย
จากกรณีในกระแสโซเชียลเน็ตเวิร์กมีการโพสต์คลิปวิดีโอความยาวประมาน 3 นาที เกี่ยวการปะทะกันระหว่าง โชเฟอร์แท็กซี่พัทยาและโชเฟอร์แกร็บคาร์ โดยในคลิปจะเห็นว่ากลุ่มคนขับแท็กซี่ได้พากันมาปิดล้อมรถ และรุมทำร้ายคนขับรถแกร็บคาร์ ซึ่งเป็นกระแสวิจารณ์กันถึงความไม่เหมาะสม ของกระทำของโชเฟอร์แท็กซี่กันในขณะนี้เป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเวลาประมาน 14.00 น. ของวานนี้ (24 ม.ค.62) บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ สาขาพัทยาใต้ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยรถแกร็บคาร์ ยี่ห้อ นิสสัน มาร์ช สีทอง ทะ เบียน กจ – 3234 กทม. มาจอดบริเวณจุดเกิดเหตุ จากนั้นได้มีกลุ่มคนขับแท็กซี่ประมาน 3 คัน ได้ขับรถมาปิดล้อมรถแกร็บคาร์เอาไว้ ก่อนคนขับจะลงมาทะเลาะมีปากเสียงกันตามคลิปวิดีโอ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าควบคุมสถานการณ์ และเชิญตัวคู่กรณีมาสอบสวนต่อที่ สภ.เมืองพัทยา
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 25 ม.ค.62 นายธวัฒชัย นาแสวง อายุ 36 ปี คนขับแกร็บคาร์ และนายจำนง ทองโชติฉัตร อายุ 51 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ พร้อมกลุ่มคนขับในคลิปวิดีโอ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา เพื่อให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน
จากการสอบปากคำทั้ง 2 ฝ่ายทราบว่า วันเกิดเหตุคนขับแท็กซี่ได้พบ รถนิสสัน สีทอง ทะเบียน กจ – 3234 กทม. ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยว่าเป็นแกร็บคาร์ เคยมาแย่งรับผู้โดยสารหลายครั้งแล้ว จึงขับรถไล่ติดตามมาตรวจสอบ จนมาถึงจุดเกิดเหตุ ด้วยความโมโหกลุ่มแท็กซี่จึงบันดาลโทสะด่าทอ ทะเลาะมีปากเสียงกัน และนายจำนง ทองโชติฉัตร โชเฟอร์แท็กซี่ ได้ถีบไปที่ท้ายรถยนต์นิสสัน ทำให้นายธวัฒชัย นาแสวง หนุ่มแกร็บคาร์ ลงมาจากรถ และชกต่อยกันตามคลิปวิดีโอ
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกาย แก่คู่กรณีทั้ง 2 ราย และเพิ่มข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ แก่ นายจำนง โชเฟอร์แท็กซี่ เนื่องจากได้ถีบท้ายรถทำให้เสียหาย พร้อมสำนวนส่งฟ้องศาลดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม กรณีที่กลุ่มแท็กซี่กล่าวอ้างว่า นายธวัฒชัย เป็นคนขับแกร็บคาร์ ซึ่งอาจจะมีความผิดเกี่ยวกับการใช้รถผิดประเภทไม่ตรงตามที่จดทะเบียนไว้นั้น จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ในวันเกิดเหตุนายธวัฒชัย ไม่มีผู้โดยสารในรถ ไม่ได้จอดรถรอรับผู้โดยสาร และไม่ได้แย่งลูกค้าจากแท็กซี่ จึงถือว่าไม่มีความผิด