เหอเป่ยพลิกหลุมขยะ สู่ ‘สวนสาธารณะเชิงนิเวศ’

ประเด็นน่าสนใจ

สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า ทุกเช้า หวังฮุ่ยอี้วัย 48 ปีกับพรรคพวกจะออกมาปั่นจักรยานรอบทะเลสาบในท้องถิ่น ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นบ่อน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม

ทะเลสาบใต้ หรือทะเลสาบหนานหูในเมืองถังซาน มณฑลเหอเป่ยทางตอนเหนือของจีน เคยเป็นสถานที่ที่ชาวบ้านหลีกเลี่ยงไม่เข้าใกล้ เนื่องจากชุกชุมไปด้วยแมลงวันและยุง ทั้งยังมีขยะกองสูงหลายสิบเมตร

“ตอนนี้มันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว” หวังผู้เป็นหัวหน้าสมาคมจักรยานท้องถิ่นกล่าว “สภาพแวดล้อมได้รับการปรับปรุง ตอนนี้ที่นี่อากาศดีเหมาะกับการออกกำลังกาย”

ถังซานเป็นเมืองอุตสาหกรรมของจีนและเป็นหนึ่งในพื้นที่เหมืองถ่านหินที่สำคัญของประเทศ ทั้งยังเป็นที่ตั้งของเหมืองถ่านหินไคหลวน ซึ่งเป็นเหมืองถ่านหินแห่งแรกของจีนที่ใช้เครื่องจักรโดยเหมืองนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1878

กว่าหนึ่งศตวรรษของการทำเหมือง ทำให้เกิดหลุมบ่อที่มีขนาดใหญ่กว่า 30 ตารางกิโลเมตร ซึ่งได้ทรุดตัวลงไปอีกในปี 2519 เนื่องจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ต่อมาหลุมนั้นก็เต็มไปด้วยขยะจากบ้านเรือนและจากการก่อสร้าง

ในปี 2008 รัฐบาลเมืองถังซานเริ่มโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ของพื้นที่ด้วยการปลูกต้นไม้ สร้างถนนที่สวยงาม รวมถึงสร้างทะเลสาบ โดยมีเป้าหมายที่จะพลิก “แผลเป็นจากอุตสาหกรรม” ในอดีตให้กลายเป็น “ปอดสีเขียว” ของเมือง

พื้นที่หลุมบ่อในอดีตแปรเปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะที่มีทะเลสาบขนาด 11.5 ตารางกิโลเมตรและผืนดินสีเขียว 16 ตารางกิโลเมตร

ซือซวี่หราน ผู้เริ่มทำงานใกล้บริเวณทะเลสาบในปี 2011 บอกเล่าว่า “ฉันได้เห็นกับตาตอนที่ทะเลสาบเปลี่ยนแปลงจากที่รกร้างกลายเป็นสวนสาธารณะที่สวยงาม”

รัฐบาลท้องถิ่นเคยใช้สวนสาธารณะแห่งนี้เป็นสถานที่จัดงานนิทรรศการพืชสวนนานาชาติถังซาน ปี 2016 ซึ่งทำให้ผู้คนตื่นตะลึงไปกับการพลิกโฉมอดีตหลุมขยะแห่งนี้

ในปี 2018 พื้นที่ทะเลสาบหนานหูถูกปรับปรุงให้เป็นสถานที่ชมวิวสาธารณะ และเมืองถังซานยังก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพิ่มเติม ทั้งโรงละคร ห้องสมุด และพิพิธภัณฑ์ ทำให้ในปี 2019 สวนแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมมากกว่า 6.4 ล้านคน

รัฐบาลท้องถิ่นยังดัดแปลงโถงนิทรรศการที่ใช้ในงานแสดงพืชสวนให้เป็นโถงศิลปะการเชิดหุ่นเงา ซึ่งเป็นงานศิลปะท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง พร้อมนำเสนอประสบการณ์การแสดงหุ่นเชิดแบบโต้ตอบได้ให้แก่ผู้เข้าชม

“ตอนนี้ ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในถังซานที่คุณห้ามพลาด” ซือทิ้งท้าย

ที่มา : Xinhua