คณะราษฎร ถาวร เสนเนียม ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ปิยบุตร แสงกนกกุล

“ถาวร” ชี้ “ธนาธร-ปิยบุตร” อยู่เบื้องหลังม็อบราษฎร หวังล้มสถาบัน

'ถาวร เสนเนียม' แถลงข่าวเรื่องจุดยืนเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ของตนเอง ยืนยันว่าม็อบมีผู้อยู่เบื้องหลัง โดยใช้เด็กเป็นเครื่องมือนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองมีเป้าหมายล้มสถาบัน

Home / NEWS / “ถาวร” ชี้ “ธนาธร-ปิยบุตร” อยู่เบื้องหลังม็อบราษฎร หวังล้มสถาบัน

ประเด็นน่าสนใจ

  • ’ถาวร เสนเนียม’ แถลงข่าวเรื่องจุดยืนเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยระบุว่า ตนเองเป็นคนไทยคนหนึ่งที่มีความสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์
  • ยืนยันว่าม็อบมีผู้อยู่เบื้องหลัง โดยใช้เด็กเป็นเครื่องมือนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองมีเป้าหมายล้มสถาบัน
  • ชี้ “ธนาธร-ปิยบุตร” อยู่เบื้องหลัง ในการปลุกปั้นให้เยาวชนเกลียดชังสถาบันผ่าน Hate Speech และโซเชียลมีเดีย

วันนี้ (24 พ.ย. 63) ที่ พรรคประชาธิปัตย์ นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และ ส.ส. จังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้แถลงข่าวเรื่องจุดยืนเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ของตนเองพร้อมแถลงข่าวอ้างถึงการเคลื่อนไหวชุมนุมของม็อบ #ราษฎร

โดย นายถาวร กล่าวว่า ติดตามการชุมนุมมาร่วม 1 ปี หรือมากกว่านั้น ยืนยันว่าม็อบมีผู้อยู่เบื้องหลัง โดยใช้เด็กเป็นเครื่องมือนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองมีเป้าหมายล้มสถาบันแต่เลี่ยงไปใช้คำว่าปฏิรูป เพราะปรากฏความสอดคล้องระหว่างหลักคิดของคนบงการส่งถูกนำไปปฏิบัติในการชุมนุมและเป็นหลักคิดจะเดียวกันผ่านวิธีการ Hate speech

ซึ่งเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2559 นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าได้ไปพูดที่มหาวิทยาลัยลอนดอนกล่าวหาพาดพิงสถาบันว่ามีอำนาจอิทธิพลเหนือผู้พิพากษา ซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง เข้าลักษณะทฤษฎีสมคบคิด

พร้อมกันนี้นายถาวร ได้นำคลิปวิดีโอในวันดังกล่าวที่นายปิยบุตร ไปพูดมาเปิดต่อสื่อมวลชนด้วย โดยนายถาวร พยายามชี้แจง ว่าสถาบันไม่เคยสั่งการอะไรที่ไม่มีกฎเกณฑ์ หรือดำเนินตามใจชอบนอกเหนือที่รัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งสิ่งที่นายปิยบุตรกล่าวหานั้นเป็นสิ่งที่บิดเบือนไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง

นอกจากนี้ยังพบว่ามีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ร่วมสมคบคิดด้วย โดยยกคำพูดของนายธนาธร ที่เคยตีพิมพ์ไว้ในหนังสือ Portrait ธนาธร เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2561 รวมถึงการไปพูดในงานวิชาการ ตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งมีการตอกย้ำเรื่องการปฏิรูปสถาบัน

อีกทั้งยังพบว่า มีการจัดตั้งพรรคการเมืองเอาไว้ เพื่อเป็นเครื่องมือในการดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ แต่สุดท้ายพรรคก็ถูกยุบ เพราะทำผิดกฏหมายจากนั้นก็มีการจัดแฟลชม็อบ และหัวข้อการชุมนุม ก็เกี่ยวกับการล้มล้างสถาบัน แล้วมีความพยายามเปลี่ยนชื่อ สถานที่สำคัญๆหลายแห่ง เช่น สนามหลวง เปลี่ยนเป็นสนามราษฎร

นายปิยบุตรและนายธนาธร ใช้ระยะเวลาประมาณ 10 เดือนในการปลุกปั้นให้เยาวชนเกลียดชังสถาบันผ่าน Hate Speech และโซเชียลมีเดีย และในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ ผู้ชุมนุมก็มีการนัดชุมนุมใหญ่กันอีกครั้งที่เพื่อเป็นการตอบโต้การบังคับใช้กฎหมายมาตรา 112 โดยประกาศแผนการเข้าบุกล้อมเพื่อยึดสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์โดยแบ่งกำลังออกเป็น 4 กลุ่มบุกเข้าโจมตีทั้ง 4 ด้าน นายถาวร กล่าว

ซึ่งผู้ก่อการเตรียมยกระดับสถานการณ์ให้ไปสู่ความรุนแรง โดยเปลี่ยนการ์ดอาชีวะมาเป็นการ์ดรบพิเศษ เพื่อรับสถานการณ์ไปสู่ความรุนแรงให้ได้ตามยุทธศาสตร์สงครามประชาชน ดังนั้น จึงอยากจะเสนอไปยังผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบว่า ให้ดำเนินคดีกับผู้บงการทุกระดับชั้น ตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม และยกเว้นโทษสำหรับผู้ชุมนุมที่ตกเป็นเหยื่อ ขณะที่นักการเมือง และพรรคการเมืองที่ต้องการปฏิรูปสถาบันให้ประกาศตัวยอมรับต่อสาธารณะชนให้ชัดเจน

นายถาวร ยังย้ำอีกว่า ความผิดซึ่งหน้าเกิดขึ้นแล้วเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดีเอสไอ ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครองต้องมีหน้าที่ดำเนินการอย่าขี้ขลาดเอาผิดตามกฏหมายโดยเด็ดขาดส่วนการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ที่มีการใช้แก๊สน้ำตา ในการชุมนุมครั้งนี้เมื่อเทียบกับการชุมนุมที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นเสื้อเหลืองเสื้อแดงหรือ กปปส. ครั้งนี้ ถือว่าละมุนละม่อมและเบาที่สุดจึงขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติหน้าที่และใช้ความอดทนสำหรับข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมที่ให้นายกรัฐมนตรีลาออกนั้นปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการไม่ขอแสดงความคิดเห็น

ส่วนการชุมนุมที่หน้าสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ วันพรุ่งนี้ตนเองมีความเป็นห่วงในหลายประเด็นและฝากถึงกลุ่มผู้ชุมนุมขอให้ปฏิบัติตามกฎหมาย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตพระราชทานจึงห้ามเข้าใกล้ในระยะ 150 เมตร พร้อมฝากไปยังกาดผู้ชุมนุมขอให้ดูแลการชุมนุมโดยยึดหลักสงบ สันติอาหิงสา ปราศจากอาวุธ มึงดูแลผู้ชุมนุมไม่ยั่วยุเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำหน้าที่ตามกฏหมายอย่างเหมาะสม

อย่างไรก็ตาม นายถาวรยังย้ำว่าในฐานะที่ตนเองเป็นพสกนิกร เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ขอทำหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติศาสนาพระมหากษัตริย์และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเชื่อว่าคนไทยกว่าร้อยละ 90 ก็คิดเหมือนกับตนเองมีเพียงคนส่วนน้อย และผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังม็อบเท่านั้นที่คิดแตกต่าง

เสนอ 5 ทางออก หยุดสงครามกลางเมือง

นายถาวร ได้เสนอแนวทางเพื่อหยุดยั้งไม่ให้การชุมนุมลุกลามไปสู่การเกิดสงครามกลางเมือง โดยระบุว่า

  • ให้ดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้บงการ / ผู้อยู่เบื้องหลัง
  • ให้นักการเมือง, พรรคการเมือง แสดงตัวให้ชัดเจนว่า ต้องการปฏิรูปสถาบัน
  • คัดค้านการปฏิรูปสถาบันฯ
  • คัดค้านการรัฐประหาร
  • ตรวจสอบเรื่องทุจริตรัฐบาล นักการเมือง ข้าราชการอย่างจริงจัง รวมถึงนักการเมือง และพรรคการเมืองด้วย