พระคติธรรม จากสมเด็จพระสังฆราช เนื่องในวันวิสาขบูชา 2562

วันนี้ (15 พ.ค. 2562) สมเด็จพระอริยวงคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ประทานพระคติธรรม เนื่องในวันวิสาขบูชาประจำปี 2562 ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 18 พ.ค. โดยมีใจความว่า ขอชาวพุทธดำรงตนอยู่ในความไม่ประมาท…

Home / NEWS / พระคติธรรม จากสมเด็จพระสังฆราช เนื่องในวันวิสาขบูชา 2562

ประเด็นน่าสนใจ

  • วันวิสาขบูชา ปี2562 ตรงกับวันเสาร์ ที่ 18 พฤษภาคม
  • วันวิสาขบูชา เป็นวันที่สำคัญที่สุดในพระพุทธศาสนา เพราะเป็นวันคล้ายวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญของพระพุทธศาสนามากถึง 3 เหตุการณ์ ในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 คือ เป็นวันคล้ายวันประสูติ, ตรัสรู้ และปรินิพพาน ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้นจึงมีคำเรียกวันนี้อีกอย่างหนึ่งว่า “วันพระพุทธเจ้า”

วันนี้ (15 พ.ค. 2562) สมเด็จพระอริยวงคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ประทานพระคติธรรม เนื่องในวันวิสาขบูชาประจำปี 2562 ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 18 พ.ค. โดยมีใจความว่า ขอชาวพุทธดำรงตนอยู่ในความไม่ประมาท และหมั่น บำเพ็ญทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา เพื่อเป็นแสงส่องใจให้พุทธศาสนิกชนทั้งปวงสืบไป

“ดิถีวิสาขบูชา อันเป็นวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นวันสำคัญสากลของโลก ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งแล้ว

พระโพธิสัตว์สิทธัตถราชกุมารเสด็จอุบัติขึ้นบนโลกนี้เมื่อกว่า ๒,๖๐๐ ปีก่อน ทรงถึงพร้อมด้วยพระชาติ มีพระกายลักษณะอย่างมหาบุรุษครบถ้วนเป็นอัศจรรย์ แต่ที่วิเศษยิ่งกว่านั้นคือพระคุณ ด้วยเหตุแห่งการตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ยังให้ทรงบริบูรณ์ด้วย ‘พระปัญญาคุณ’ สามารถชำระกิเลสเครื่องเศร้าหมองให้หมดสิ้นไปจากพระทัย

บรรลุถึงความสะอาดผ่องใสที่เรียกว่า ‘พระบริสุทธิคุณ’ แล้วจากนั้นไม่นานก็ได้ทรงเผยแผ่พระธรรมสั่งสอนโลก ด้วยอำนาจแห่ง ‘พระมหากรุณาคุณ’ ครบถ้วนแห่งองค์คุณของความเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ตลอด ๔๕ พรรษาแห่งการบำเพ็ญพุทธกิจ

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระปัจฉิมวาจาก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพานว่า ‘วยธมฺมา สงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ’ แปลความว่า ‘สังขารมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด’ ดังนี้

ขอทุกท่านหันกลับมาพิจารณาสังขารธรรม หรือความปรุงแต่งในรูปและนาม ณ บัดนี้ แล้วจงฉุกคิดถามตนเองว่า ในขณะที่รูปและนามกำลังเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านได้อบรมเจริญปัญญา เป็นเสบียงแห่งอนาคตไว้มากน้อยเพียงไรแล้ว ท่านกำลังมีความประมาทในชีวิต เผลอคิดไปว่ายังเหลือเวลาอยู่อีกมากหรือไม่ ในเมื่ออันที่จริง ทุกคนไม่อาจทราบได้ว่าความตายจะมาถึงเมื่อไร

ชีวิตนี้สั้นนัก เพราะฉะนั้น ‘ความไม่ประมาท’ ณ ขณะปัจจุบัน จึงเป็นบทสรุปแห่งพระบรมพุทโธวาทที่สั้นที่สุด แต่มีความสำคัญสูงสุดสำหรับชาวพุทธทุกคน

ขอสาธุชนอย่าละเลยการบำเพ็ญทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา อันนับเป็น ‘ปฏิบัติบูชา’ ที่พึงกระทำต่อพระรัตนตรัย เพื่อความดำรงคงมั่นแห่งพระสัทธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นประทีปส่องใจเวไนยนิกรทั้งปวงสืบไปตลอดกาลนาน เทอญ