กลุ่มชาติพันธุ์ ข่าวสดวันนี้

สมาคมสื่อฯยื่นหนังสือกรมการปกครองสอบผู้ใหญ่บ้านเรียกรับเงิน ‘ชาวชาติพันธ์ุ’

สมาคมสื่อฯยื่นหนังสือกรมการปกครองให้ตรวจสอบผู้ใหญ่บ้าน!กินเงิน”ชาวชาติพันธ์ุ” เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 15 พ.ค.2562  ที่กรมการปกครองกระทรวงมหาดไทยนายคฑาภณ สนธิจิตร นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชน (ประเทศไทย) ประธานเครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตประพฤติมิชอบแห่งชาติพร้อมผู้บริหารได้นำนายประเทือง ทองเปราะ และ นายพิชิต ช้างแรงการ พร้อมตัวแทนชาวบ้านซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธ์ุ …

Home / NEWS / สมาคมสื่อฯยื่นหนังสือกรมการปกครองสอบผู้ใหญ่บ้านเรียกรับเงิน ‘ชาวชาติพันธ์ุ’

สมาคมสื่อฯยื่นหนังสือกรมการปกครองให้ตรวจสอบผู้ใหญ่บ้าน!กินเงิน”ชาวชาติพันธ์ุ”

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 15 พ.ค.2562  ที่กรมการปกครองกระทรวงมหาดไทยนายคฑาภณ สนธิจิตร นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชน (ประเทศไทย) ประธานเครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตประพฤติมิชอบแห่งชาติพร้อมผู้บริหารได้นำนายประเทือง ทองเปราะ และ นายพิชิต ช้างแรงการ พร้อมตัวแทนชาวบ้านซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธ์ุ  หมู่ 2 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เข้ายื่นหนังสือพร้อมหลักฐานคลิปวีดีโอและรายชื่อการจ่ายเงิน เข้าร้องเรียนกับ นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร รองอธิบดีกรมการปกครองซึ่งเป็นตัวแทนอธิบดีกรรมการปกครองลงมารับหนังสือแทน

โดยทางสมาคมฯ ได้ขอให้ทางกรมการปกครองตรวจสอบ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่2 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี มีพฤติกรรมเรียกรับเงินในการต่อบัตร – ทำบัตรประจำตัวบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนกลุ่มชาติพันธ์ุ และให้ตรวจสอบนายอำเภอ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี อาจมีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ด้วย

ทางสมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนได้รับการร้องเรียนจาก นายประเทื่อง ทองเปราะ และ นายพิชิต ช้างแรงการ ซึ่งเป็นตัวแทนชาวบ้านหมู่2 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้เข้าร้องเรียนกับทางสมาคมฯให้ตรวจสอบผู้ใหญ่บ้าน หมู่2 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ที่มีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์ ในการต่อบัตร-ทำบัตรบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนให้กลุ่มชาติพันธ์ุ  ในราคา 2,000 – 30,000 บาทแล้วแต่กรณี

โดยได้ทำลักษณะนี้มานานโดย ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวจะใช้วิธีการให้ผู้ที่จะทำบัตร-ต่อบัตรฯ ให้นำเงินไปไว้ตามจุดต่างๆตามที่ได้ตกลงกันไว้ เพื่อไม่ให้เป็นหลักฐานสาวมาถึงตัวของผู้ใหญ่ และยังใช้อำนาจข่มขู่ชาวชาติพันธ์ุโดยสั่งห้ามนำเรื่องที่เสียเงินไปบอกใครเด็ดขาดถ้าไม่ทำตามคำสั่งจะตัดชื่อออกจากหมู่บ้านและจะไม่เดินเรืองในการต่อบัตรให้อีกต่อไป โดยได้บอกเหตุผลที่เรียกเก็บเงินกับชาวชาติพันธ์ุเพราะต้องนำไปจ่ายให้กับข้าราชการในอำเภอไทรโยค เพราะเป็นประเพณีที่ทำกันมานานแล้ว

ซึ่งการกระทำของผู้ใหญ่บ้านรายนี้สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านที่เป็นชาวชาติพันธ์ุในพื้นที่อย่างมาก เพราะชาวบ้านกลุ่มนี้ส่วนมากจะประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้างปลูกมันสำปะหลังได้ค่าแรงวันละ 200-250 บาท ลำพังจะกินยังไม่พอจะกินยังต้องมาเสียเงินให้กับผู้ใหญ่บ้านอีกและถ้าคนไหนไม่มีเงินจ่ายก็ต้องไปกู้เงินมาจ่ายตอนนี้เดือดร้อนมาก

จึงขอให้ทางกรมการปกครองช่วยตั้งคณะกรรมการที่มาจากส่วนกลางลงมาตรวจสอบ และสอบสวนในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนเพราะผลการสอบสวนในเรื่องนี้ในครั้งล่าสุดทางอำเภอไทรโยคก็ได้ใช้กรรมการที่มาจากอำเภอไทรโยค เข้าทำการสอบสวน ซึ่งผลที่ออกมาปรากฎว่าผู้ใหญ่บ้านไม่มีความผิดใด ๆ ซึ่งมันขัดกับความเป็นจริงทั้งสิ้น และเชื่อว่าผลการสอบสวนในครั้งก่อนพวกชาติพันธ์ุไม่ได้รับความเป็นธรรม และการสอบสวนไม่โปร่งใสซึ่งการเรียกรับเงินการต่อบัตร-ทำบัตรบุคลไม่มีสถานะในตอนนี้ได้เกิดระบาดไปทุกหมู่บ้านในอำเภอไทรโยค โดยจะทำเป็นขบวนการและอ้างเป็นประเพณีที่ทำกันนานแล้วจึงอยากให้อธิบดีกรมการปกครองลงมาแก้ไขเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนและหาผู้กระทำผิดมาลงโทษเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างจงใจและทำกันเป็นขบวนการในการเรียกรับผลประโยชน์ในเรื่องนี้

อย่างไรก็ตามทางด้านนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร รองอธิบดีฯ ได้กล่าวว่าตนจะเร่งตรวจสอบในเรื่องที่ร้องเรียนมาอย่างเร่งด่วน ซึ่งทางอธิบดีกรมการปกครองได้เซ็นหนังสือคำสั่งให้ตรวจสอบเรื่องนี้มาถึงตนแล้ว โดยตนจะมอบหมายให้ นายวิรัตน์ ชัยสิทธิ์ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครองเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้และจะตั้งคณะกรรมการจากส่วนกลางลงพื้นที่ตรวจสอบในเรื่องนี้และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายใครผิดก็ว่าไปตามความผิด ถ้าผลการสอบส่วนพาดพิงไปถึงใครทางเราจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดไม่มีข้อยกเว้นเพราะเป็นนโยบายของทางอธิบดีกรมการปกครองอยู่แล้ว