กลุ่มผู้ประท้วงในประเทศกัวเตมาลา ได้บุกเผาอาคารรัฐสภา เนื่องจากไม่พอใจที่รัฐบาลได้มีการผ่านกฎหมายงบประมาณฉบับใหม่ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งในงบประมาณที่ได้มีการอนุมัติออกมานั้น กลุ่มผู้ประท้วงระบุว่า รัฐบาลได้อนุมัติเพิ่มงบประมาณให้กับพวกพ้อง และกลุ่มที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาล และเลือกที่จะตัดงบประมาณด้านสิทธิต่าง ๆ ของประชาชนแทน
ซึ่งแม้ว่าจะมีการจัดสรรงบบางส่วน ( 25 ล้านเหรียญฯ) เพื่อช่วยเหลือ-แก้ไขปัญหา การขาดแคลนอาหาร ให้กับประชาชน แต่กลุ่มผู้ประท้วงมองว่า เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ถูกนำมาใช้เป็นข้ออ้างของรัฐบาลเท่านั้น และไม่เพียงพอกับสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น หนำซ้ำยังเป็นการตัดงบประมาณในส่วนอื่น เช่นงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ ลงไปกว่าครึ่ง
เนื่องจากกัวเตมาลา ในช่วงที่ผ่านมาต้องเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม พายุ รวมไปถึงปัญหาการระบาดของโควิด-19 ด้วย ซึ่งภัยพิบัติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้กัวเตมาลา เป็นหนึ่งในประเทศที่มีภาวะขาดแคลนอาหารอยู่ในลำดับต้น ๆ ของโลก
ประท้วงลุกลาม
ท่ามกลางปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้ประชาชนจำนวนมากได้ออกมารวมตัวประท้วง เพื่อเรียกร้องให้ ประธานาธิบดี Alejandro Giammattei ลาออกจากตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบ
โดยการประท้วงได้มีการนัดรวมตัวกันในบ่าย (ตามเวลาในกัวเตมาลา – กลางดึกที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทย) ก่อนที่สถานการณ์ในการประท้วงจะเริ่มลุกลาม และนำไปสู่การบุกเข้าทำลายอาคารรัฐสภา และมีกาารเผาอาคารในที่สุด
ซึ่งในขณะนี้ ยังคงมีความวุ่นวายเกิดขึ้นจากการประท้วงอย่างต่อเนื่อง
ตำรวจเข้าสลายการชุมนุม
หลังจากเกิดเหตุความวุ่นวายเกิดขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจของกัวเตมาลา ได้เข้าสลายการชุมนุมบริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา โดยใช้กระบอก แก๊สน้ำ พร้อมกับมีการจับกุมผู้ประท้วงบางส่วน