นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพะเยา เตือนประชาชนกินหมูดิบเสี่ยงโรคหูดับหรือ สเตฟโตคอกคัส ซูอีส หลังพบผู้ป่วยในพื้นที่อำเภอภูซาง และอำเภอเชียงคำ จำนวน 4 ราย และพบเสียชีวิต 1 ราย
วันนี้ (18 พ.ค.62) ผู้สื่อข่าว จ.พะเยา รายงานว่า นายแพทย์ไกรสุข เพชระบุรณิน นายแพทย์สาธารณะสุขพะเยา ต้องมาออกมาเตือนประชาชนในพื้นที่จังหวัดพะเยา ในเรื่องกินอาหารสุกๆดิบๆหรือปรุงไม่สุก โดยเฉพาะหมู ซึ่งมีประชาชนในพื้นที่นิยมนำมารับประทาน โดยการไม่ผ่านความร้อนและทำให้เกิดโรคหูดับ หรือสเตฟโตคอกคัส ซูอีส
โดยพบว่าในพื้นที่จังหวัดพะเยา ในขณะนี้ พบผู้ป่วยจำนวน 4 ราย โดยเป็นชาวบ้านในเขตอำเภอเชียงคำ จำนวน 2 ราย ซึ่งนำหมูมาปรุงเป็นลาบหรือ หลู้ รับประทานกันทำให้เกิดติดเชื้อดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ผู้ป่วยทั้งสองรายอยู่ในอาการปลอดภัย
แต่ต้องได้รับการดูแลในโรงพยาบาลขณะที่ผู้ป่วยอีกสองราย ในพื้นที่อำเภอภูซาง โดยเป็นสามีและภรรยา ได้นำแหนมจากนอกพื้นที่ต่างจังหวัด มารับประทาน พบว่าเกิดโรคดังกล่าวและทำให้านางสุทัช สุทจันทร์ อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 150 บ้านปงใหม่ ม.8 ต.ทุ่งกล้วย อ.ภูซาง จ.พะเยา เสียชีวิตนอกจากนั้นนายสงัด สีสัน อายุ 77 ปี ซึ่งเป็นสามีก็เกิดอาการเช่นเดียวกัน และป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเชียงคำ
เบื้องต้นจากการสอบสวนโรคพบว่าทั้ง 2 ราย ได้รับประทานแหนมที่ซื้อมาจากต่างจังหวัดและนำมารับประทานกัน จึงทำให้ติดเชื้อโรคดังกล่าว ขณะที่ยังพบผู้ป่วยอีก 2 ราย ในพื้นที่อำเภอเชียงคำที่ รับประทานเนื้อหมูจากการนำมาทำลาบและหลู้ รับประทานและก็เกิดอาการเจ็บป่วยเช่นกัน ซึ่งขณะนี้อยู่ในการดูแลของแพทย์โรงพยาบาลเชียงคำ ซึ่งอาการปลอดภัยดี แต่ก็ต้องให้แพทย์ดูแลอาการไปก่อนในช่วงนี้เนื่องจากผู้ป่วยยังมีภาวะที่ไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร
ขณะเดียวกันทางสาธารณสุขพะเยา ได้เตือนพี่น้องประชาชนให้หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่สุกๆดิบๆหรือไม่ผ่านความร้อน เนื่องจากจะเป็นสาเหตุของโรคดังกล่าวได้และในขณะนี้ได้มีมาตรการที่จะประชาสัมพันธ์ให้ทุกหน่วยงานในสาธารณะสุขได้ประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนได้รับทราบถึงภาวะโรคดังกล่าว นอกจากนั้นยังได้เตรียมบุคลากรทางการแพทย์เครื่องมือ ตลอดจนยารักษาโรค เพื่อเป็นการป้องกันโรคดังกล่าว และให้ทานอาหารอย่างถูกสุขลักษณะ เช่นกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ก็จะสามารถปลอดภัยจากโรคดังกล่าวได้
สำหรับสถานการณ์ผู้ป่วยจากโรคหูดับในพื้นที่จังหวัดพะเยา ในขณะนี้พบจำนวน 4 รายและเสียชีวิต 1 ราย โดย 3 ผู้ป่วยยังคงนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงคำ และต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างต่อเนื่อง ขณะที่บรรยากาศที่บ้าน ผู้เสียชีวิตจากโรคหูดับดังกล่าวนั้นพบว่าทางลูกและญาติๆไม่ยอมให้ข้อมูลแต่อย่างใด เนื่องจากมีสำนักข่าวบางสำนักที่เดินทางไปสัมภาษณ์และนำข่าวข้อเท็จจริงไปนำเสนอไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ซึ่งสร้างความเสียใจให้กับครอบครัวและไม่อยากให้ข้อมูลแต่อย่างใด