สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง ‘ฟอร์ด’ เตรียมลดพนักงาน 7,000 อัตรา หรือคิดเป็น 10% ของพนักงานทั่วโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ของบริษัท โดยคาดว่าจะช่วยให้บริษัทลดงบประมาณได้ราว 600 ล้านดอลลาร์ต่อปี
โดยการลดพนักงานในครั้งนี้จะเริ่มตั้งแต่วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม ไปจนถึงเดือนสิงหาคม 2562 ซึ่งใน 7,000 คนนี้ จะเป็นพนักงานในอเมริกาเหนือ 2,400 คน และเปิดให้พนักงานที่สมัครใจลาออกทั้งสิ้น 1,500 คน
นับเป็นการประกาศลดพนักงานครั้งใหญ่ของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐฯ อีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เจเนอรัล มอร์เตอร์ หรือ จีเอ็ม ปลดพนักงานไป 14,000 คน
จิม แฮคเกตต์ ซีอีโอของฟอร์ด มอเตอร์ กล่าวว่า เพื่อที่จะประสบความสำเร็จและเป็นที่หนึ่งในอุตสาหกรรมสำหรับโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บริษัทจำเป็นต้องปรับโครงสร้างในการบริหารที่มีพิธีรีตองและเพิ่มความรวดเร็วในการตัดสินใจ เน้นงานที่จำเป็น รวมทั้งลดงบประมาณ
ฟอร์ดได้ประกาศลดพนักงานในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ และมีแผนจะใช้เงิน 11 พันล้านดอลลาร์ ในการปรับปรุงธุรกิจ โดยหวังว่าจะเพิ่มยอดขายในต่างประเทศ และนำมาพัฒนาการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารวมทั้งเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ