เกิดอุบัติเหตุรถกระบะแหกโค้งพุ่งชนร้านค้า ก่อนทะลุเข้าไปในห้องโรงเรียน โชคดีที่นักเรียนไม่ได้อยู่ในห้องดังกล่าว แต่กระนั้นก็มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
ผู้สื่อข่าว MThai ได้รายงานว่า วันนี้ (21 พ.ค. 2562) ที่ จ.เพชรบูรณ์ ได้เกิดเหตุสุดสลดขึ้น เมื่อเกิดอุบัติเหตุถยนต์พุ่งชนอาคารโรงเรียนบ้านปากดุก ต.ปากดุก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ก่อนที่เวลาต่อมา 1 ในผู้บาดเจ็บจะทนพิษบาดแผลไม่ไหวจึงเสียชีวิตลง ทราบชื่อคือ นางอุดร พิมพ์ดี อายุ 72 ปี
ทั้งนี้จากการสอบถาม นายเดชดนัย รัตนวิจิตร อายุ 36 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเขาได้ขับรถอยู่บนถนนเส้นดังกล่าว แต่จังหวะที่เหลือบมองกระจกหลังซึ่งเป็นช่วงโค้งเล็กน้อย ก็พบว่ารถกระบะที่วิ่งตามหลังมาได้เสียหลัก พุ่งชนร้านค้า กำแพงบ้าน กำแพงโรงเรียน ทะลุเข้าไปในห้องเรียน
จากนั้นก็พบว่ามีผู้บาดเจ็บนอนอยู่กับพื้น 2 คน จึงได้โทรศัพท์แจ้ง 1669 และเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ ส่วนคนขับทราบชื่อต่อมา คือ นายกันตพงศ์ มงคลวัจน์ อายุ 22 ปี อยู่ในอาการที่ตกใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รีบนำตัวออกจากพื้นที่ เนื่องจากเกรงว่าจะถูกญาติของผู้ได้รับบาดเจ็บรุมทำร้าย
ด้านนายนิรศักดิ์ นารี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านปากดุก เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการเปิดเรียนวันแรก และปกติจะมีนักเรียนชั้นอนุบาลประมาณ 20 คน ทำกิจกรรมอยู่ภายในห้องดังกล่าว แต่ขณะเกิดเหตุครูได้พานักเรียนออกไปนอกห้อง เพื่อเตรียมตัวเคารพธงชาติ ไม่เช่นนั้นหากมีนักเรียนอยู่อาจทำให้เกิดความสูญเสียมากกว่านี้อย่างแน่นอน
เบื้องตนเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าก่อนเกิดเหตุรถคันดังกล่าว น่าจะขับมาด้วยความเร็ว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางโค้งอาจจะเสียหลักแหกโค้ง ประกอบกับในขณะนั้น นางเสงี่ยม พลจันทร์ อายุ 72 ปี ซึ่งเปิดร้านค้าขายขนมขบเคี้ยว กำลังนั่งคุยอยู่กับนางอุดร พิมพ์ดี รถได้พุ่งชนทั้งสองคนลากไปอัดกับกำแพง 2 ชั้น และ ทะลุไปในห้องเรียน จนเป็นเหตุทำให้นางอุดรเสียชีวิต และ นางเสงี่ยม ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวคนขับไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด ปรากฏว่าไม่พบแต่อย่างใด จากการสอบสวนนายกันตพงศ์ มงคลวัจน์ อายุ 22 ปี ไห้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองได้ขับรถเพื่อที่จะมารับคนงานภายในหมู่บ้าน
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้ง ได้มีรถจักรยานยนต์ตัดหน้า ตนตกใจจึงหักหลบและพุ่งชนร้านค้าและทะลุไปในห้องเรียนดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ตำรวจ สภ.หล่มสัก จะได้สอบสวน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับนายกันตพงศ์ต่อไป