บริษัท Pfizer – BioNTech ได้ระบุถึงผลการทดสอบวัคซีน โควิด-19 ในระยะที่ 3 โดยระบุว่า ทางบริษัทได้ทำการทดสอบในกลุ่มตัวอย่างเกือบ 44,000 ตัวอย่าง ใน 6 ประเทศ
ผลการทดสอบวัคซีนพบว่า สามารถช่วยป้องกันโควิด-19 ได้มากกว่า 90% โดยไม่มีพบสัญญาณของการติดเชื้อใด ๆ ในระหว่างการทดสอบที่เกิดขึ้น มีผู้ทดสอบเพียง 94 ราย ที่มีสัญญาณบ่งชี้ถึงการติดเชื้อโควิด-19 ในระหว่างการทดสอบ
ทางบริษัทเตรียมขออนุมัติกับทาง FDA สหรัฐฯ ในการใช้งานวัคซีนเป็นกรณีฉุกเฉินซึ่งคาดว่าจะเรียบร้อยในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน พ.ย. นี้ และจะมีการตรวจสอบความปลอดภัยในการใช้งานในขั้นสุดท้ายอีกครั้ง ซึ่งเร็วที่สุดในการตัดสินใจอนุมัติให้สามารถใช้งานได้ คาดว่า ในช่วงเดือน ธันวาคมที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพที่เกิดขึ้นนั้นมาจาก การวิเคราะห์ขั้นแรกก่อนการวิจัยสิ้นสุดลง หรือ Interim Analysis ซึ่งอาจจะมีข้อมูล/ค้นพบอะไรบางอย่างเพิ่มขึ้นในช่วงสุดท้ายนี้ได้เช่นกัน ทางบริษัทก็จะมีการทดสอบทางคลินิคต่อไปในขั้นสุดท้าย กับผู้ป่วยอีก 164 เคส เพื่อเป็นข้อมูลในการศึกษาประสิทธิ์ภาพต่อไป
◾️สหรัฐฯ อันดับแรก
สำหรับบริษัท Pfizer – BioNTech ได้ทำสัญญากับรัฐบาลสหรัฐ ในการจัดทำวัคซีนราว 100 ล้านโดสในปีนี้ และยังมีข้อตกลงร่วมกันกับชาติในกลุ่มสหภาพยุโรป, อังกฤษ, แคนนาดา และญี่ปุ่น ราว 500 ล้านโดส ซึ่งนั่นหมายความว่า ประเทศเหล่านี้ จึงเป็นกลุ่มเป็นประเทศที่มีโอกาสใช้วัคซีนเหล่านี้ก่อนประเทศอื่น
ในขณะนี้ ทาง Pfizer คาดว่า จะสามารถผลิตวัคซีนได้ราว 50 ล้านโดสในปี 2020 นี้ และอีก 2.1 พันล้านโดส ในปี 2021
นอกจากนี้ ในการอนุมัติการใช้งานฉุกเฉิน ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนจะสามารถใช้งานได้ หากแต่จะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อ เช่นกลุ่มเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง หรือสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือเป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงในการเสียชีวิตเป็นอันดับแรก ๆ
ดังนั้นสำหรับประชาชนทั่วไป การรักษาระยะห่าง การสวมหน้ากากอนามัย จึงยังคงเป็นทางเลือกในการป้องกันไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพในขณะนี้
◾️เกี่ยวกับวัคซีนของ Pfizer – BioNTech
เป็นวัคซีนแบบ mRNA-based คือ การนำสารพันธุกรรมที่เรียกว่า RNA ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่บางส่วน ที่ไม่ก่อให้เกิดโรคฉีดเข้าไปยังร่างกาย เพื่อให้ร่างกายของผู้ได้รับวัคซีน สร้างภูมิคุ้มกันในการต่อสู้กับไวรัส
โดยผลการทดสอบในระยะที่สามนี้ พบว่า ประสิทธิภาพในการกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันของอาสามัครได้ดี ซึ่งวัคซีนตัวนี้ จะใช้การฉีดจำนวน 2 เข็มด้วยกัน ห่างกัน 28 วัน ซึ่งภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นในร่างกายของอาสาสมัครจะเพิ่มสูงขึ้นจนสามารถป้องกันโควิด-19 ได้หลังจากฉีดเข็มที่ 2 ไปแล้ว 7 วัน
นอกจากนี้ วัคซีนมีอายุ 5 วันในตู้เย็นปรกติที่อุณหภูมิ 4°C ส่วนการขนส่งระหว่างประเทศจำเป็นต้อง
◾️นอกจาก Pfizer-BioNTech แล้วยังมีอีก 9 ตัว อยู่ในขั้นที่ 3
จากรายงานขององค์การอนามัยโลกระบุว่า นอกจากวัคซีนของบริษัท Pfizer – BioNTech แล้ว ยังมีอีก 9 ตัวด้วยกันที่อยู่ในขั้นที่ 3 ของการทดสอบทางคลินิก ไม่ว่าจะเป็นจากของ Shinovac ของจีน, Oxford/AstraZeneca เป็นต้น
ส่วนที่เหลือ ยังคงอยู่ในการทดสอบอีกกว่า 150 รายการด้วยกัน โดย
- ระยะที่ 2 ราว 18 ชนิด
- ระยะ 1 กว่า 30 ชนิด
- Pre clinical อีกกว่า 150 ชนิด