วันนี้ (8 พ.ย.) เมียนมา จัดการเลือกตั้งทั่วไป ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 โดยชาวเมียนมาออกไปใช้สิทธิ์กันตั้งแต่เช้าตรู่ และเป็นไปอย่างคึกคัก
ทางการเมียนมา ได้จัดมาตรการเลือกตั้งให้เป็นไปตามแนวทางการป้องกันโรคโควิด-19 โดยมีการจัดให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ผู้ที่ไปลงคะแนนจะต้องมีการสวมหน้ากาก วัดไข้ ล้างมือ ก่อนเข้าไปยังลงชื่อ พิมพ์ลายนิ้วมือ รับบัตรเลือกตั้ง
สำหรับการเลือกตั้งของเมียนมาในครั้งนี้ ถือเป็นการเลือกตั้งครั้งที่ 2 ของประเทศนับตั้งแต่ปี 2011 ที่รัฐบาลทหารเข้ากุมอำนาจ ก่อนจัดให้มีการเลือกตั้งไปเมื่อปี 2016 หรือเกือบ 5 ปีที่ผ่านมา โดยในครั้งนั้น พรรค NLD ของนางอองซาน ซูจี ได้รับชัยชนะไป
หลายฝ่ายคาดว่า พรรค NLD ของนางอองซาน ซูจี จะได้รับชัยชนะอีกครั้งหนึ่ง แต่หลายฝ่ายก็ยังคงเฝ้าจับตามองว่า ผลการเลือกตั้งในครั้งนี้จะเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ เนื่องจากในช่วงเวลาที่ผ่านมาถูกมองว่า เป็นรัฐบาลผู้สูงอายุ เนื่องจากตัวของนางอองซาน ซูจีเอง ก็มีอายุว่า 70 ปีแล้ว รวมถึงรัฐมนตรีในรบ. ก็มีอายุมากกว่า 65 ปีแทบทั้งสิ้น ซ้ำร้ายหลายคนถือเป็น รัฐมนตรีมือใหม่
ในขณะที่ปัญหาใหญ่ ๆ ในช่วงที่ผ่านมาของเมียนมา เห็นจะเป็นปมปัญหา ชาวโรฮิงญา ที่เป็นชนวนให้หลายฝั่งโดยเฉพาะในฝากฝั่งชาติตะวันตกจับตามองไปยังรัฐบาลเมียนมา รวมถึงนางอองซาน ซูจี อีกด้วย
นอกจากนี้ ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ปัญหาการระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในประเทศที่กำลังรุมเร้าอยู่ในขณะนี้ ยังไม่นับรวมถึงปัญหาข้อพิพาทกับกลุ่มชาติพันธ์ุต่าง ๆ ที่ยังคงมีการสู้รบกับรัฐบาลพม่าในตลอดช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง
จึงทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้ เป็นที่จับตามองอย่างยิ่ง และถือเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาประเทศของเมียนมา ท่ามกลางปัญหาที่รุมเร้าอีกด้วย
ในการเลือกตั้งในครั้งนี้ มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกว่า 37 ล้านคน โดยในการเลือกตั้งทั่วไปนั้นจะมีการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรวมทั้งหมด 330 ที่นั่ง, วุฒิสภาอีก 168 ที่นั่ง รวมถึงตำแหน่งในการเมืองท้องถิ่นของเมียนมาอีกในหลาย ๆ ระดับ อีกกว่า 1,100 ที่นั่ง