ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ เลือกตั้งสหรัฐฯ โจ ไบเดน โดนัลด์ ทรัมป์

โจ ไบเดน ว่าที่ ปธน. คนที่ 46 อย่างไม่เป็นทางการ

ผลเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ไบเดน ว่าที่ ปธน.สหรัฐฯ คนใหม่ / ทรัมป์ ยังคงไม่ยอมรับผลนับคะแนน

Home / NEWS / โจ ไบเดน ว่าที่ ปธน. คนที่ 46 อย่างไม่เป็นทางการ

ประเด็นน่าสนใจ

  • ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ โจ ไบเดนได้รับชัยชนะในครั้งนี้
  • แถลงพร้อมเดินหน้าแก้ไขปัญหา ท่ามกลางวิกฤติที่เกิดขึ้น
  • ผู้นำหลายชาติ ร่วมแสดงความยินดี
  • ทรัมป์ ยังคงแย้งผลการเลือกตั้ง
  • กลุ่มผู้สนับสนุนไบเดน ออกมาร่วมกันแสดงออก-แสดงความยินดี

ล่าสุด –

ไบเดนและคาเมร่า เฮริส แถลงชัยชนะขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่โหวตให้ ซึ่งไบเดนได้ย้ำถึงการเข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ โดยมุ่งหวังเพื่อการสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้น ไม่แบ่งแยกฝ่าย และช่วงเวลานี้ เป็นช่วงเวลาที่ต้องช่วยกันสร้าง เก็บเกี่ยวผลผลิต หว่านเมล็ดพันธุ์ เป็นช่วงเวลาที่ต้องช่วยกันเยียวยาประเทศ


ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง หรือ Election Day 2020 และผ่านการนับคะแนนต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 4 วัน ถึงจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการว่า ใครเป็นจะได้เป็นผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ

ผลอย่างไม่เป็นทางการ ไบเดน 290 – ทรัมป์ 214


สถานะการนับคะแนนทั่วสหรัฐฯ ในขณะนี้

93%

(7 พ.ย. 63 – 07.00)


ในช่วงเวลากว่า 4 วันที่ผ่านมา การนับคะแนนในการเลือกตั้งครั้งนี้ ในช่วงแรกนั้น หลายรัฐที่เป็นพื้นที่ฐานเสียงเดิมของทั้งเดโมเครต และ รีพลิคกัน ต่างก็ไม่มีอะไรพลิกโผ การนับคะแนนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และแต่ละฝ่ายก็ขึ้นนำตั้งแต่ต้น แบบม้วนเดียวจบ

แต่ในขณะเดียวกัน รัฐที่ถูกระบุว่าเป็น Swing State กลับเป็นตัวชี้วัดที่ชัดเจนอย่างมาก ในการเลือกตั้งในครั้งนี้ ซึ่งในช่วงต้น ไม่ว่าจะเป็นเพนซิลเวเนีย เอริโซนา, วิสคอนซิล, มิชิแกน ในช่วงต้นของการนับคะแนน ทรัมป์เป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อน

แต่เมื่อเริ่มมีการนับคะแนนของทางไปรษณีย์ขึ้น สถานการณ์เริ่มเปลี่ยน ส่วนต่างคะแนนของไบเดน และทรัมป์เริ่มแคบลงเรื่อย ๆ จนกระทั่ง ไบเดนพลิกมาแซงไปได้ในที่สุด ก่อนที่จะถึงจุดที่ “ขาด” และมีการประกาศผลอย่างไม่เป็นทางการใน รัฐเพนซิลเวเนีย (จำนวน 20 เสียง) และรัฐเนวาดา ( 6 เสียง) ทำให้ไบเดน ชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้อย่างแน่นอน

ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี ที่พรรคเดโมเครต ชนะในรัฐ อย่างอริโซน่า และจอร์เจีย ที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเป็นพื้นที่พรรครีพลับริคกันชนะมาโดยตลอด

ไบเดน พร้อมเดินหน้าประเทศทันที

ตั้งแต่เมื่อวานนี้หลังจากที่ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ เริ่มชัดเจนขึ้น ว่าไบเดนพลิกขึ้นนำถึง 3 ใน 5 รัฐ ที่ถูกระบุว่าเป็น Battle Ground ก็ได้มีการขึ้นกล่าวแถลงถึงผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นที่เมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ โดยไบเดน ระบุว่า แม้ผลการเลือกตั้งยังไม่ชัดเจน แต่เรากำลังจะชนะ แม้ว่าการนับคะแนนจะเป็นไปอย่างช้า ๆ ก็ตาม แต่ปัญหาที่รออยู่นั้น รอไม่ได้ จึงขอให้ชาวอเมริกันละทิ้งความโกรธ ก้าวข้ามปัญหาทางการเมือง และร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

หลังจากการแถลงดังกล่าว ไบเดนก็เริ่มเดินหน้าตั้งคณะทำงานและทีมงานเตรียมพร้อมเดินหน้าต่อไปทันที

และในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (ตามเวลาในประเทศไทย) หลังจากที่มีการประกาศผลอย่างไม่เป็นทางการว่า ไบเดน ชนะในรัฐเพนซิลเวเนีย และ เนวาด้า ได้คะแนนเสียงเพิ่มขึ้นเป็น 290 เสียง ชนะ ทรัมป์ ที่ได้คะแนนไปเพียง 214 อย่างแน่นอนแล้ว ไบเดนก็ได้ทวีตข้อความ และคลิป โดยระบุว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกเป็นผู้นำประเทศที่ยิ่งใหญ่นี้

https://twitter.com/JoeBiden/status/1325118992785223682
ทวีตของว่าที่ ปธน. สหรัฐฯ คนใหม่

นานาชาติตอบรับ

เมื่อผลการเลือกตั้งชัดเจนขึ้นว่า ไบเดนจะได้เป็นผู้นำสหรัฐฯ ในครั้งนี้ บรรดาผู้นำประเทศหลาย ๆ ประเทศก็ได้แสดงความยินดีกับไบเดน ไม่ว่าจะเป็น เอ็มมานูเอล มาครอง ปธน. ฝรั่งเศส ที่ระบุว่า ชาวอเมริกันได้เลือกแล้ว ยินดีกับทั้งโจ ไบเดน และคาเมร่า แฮริส (รองปธน.สหรัฐฯ) พร้อมระบุว่า ยังคงมีความท้าทายอีกมากที่ทั้งสหรัฐฯ และฝรั่งเศสจะต้องทำงานร่วมกัน

ประธานาธิบดีของฝรั่งเศส, Emmanuel Macron

ในขณะที่ทาง นายกฯ ของอังกฤษ นายบอริส จอห์นสัน ก็ได้แสดงความยินดีกับไบเดนที่ชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ พร้อมทั้งระบุว่า ยังคงมีปัญหาอย่างเช่นปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ การค้า และความปลอดภัยต่าง ๆ ที่ทั้งสองประเทศต้องจับมือกันแก้ไขปัญหาต่อไปในอนาคต

นายบอริส จอห์นสัน นายกฯ ของอังกฤษ

ส่วนนาย นเรนดรา โมดี นายกฯ ของอินเดีย ก็ได้แสดงความยินดีกับ ไบเดน พร้อมระบุว่า ระหว่างอินเดียและสหรัฐฯ ยังคงมีเรื่องที่ต้องทำงานร่วมกัน หนึ่งในนั้นคือการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างอินเดียและสหรัฐฯ ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

Prime Minister of India

นอกจากนี้ ก็ยังมีอีกหลาย ๆ ประเทศที่ได้แสดงความยินดีกับไบเดน ปธน.คนใหม่ และ คาเมร่า แฮริส รองประธานาธิบดี คนใหม่ของสหรัฐฯ

Dr. Hanan Ashrawi, หนึ่งในผู้นำของ PLO
ชีคทามิม บิน ฮาหมัด บิน คาลิฟา อัล-ธานี แห่งกาตาร์

ทรัมป์-ผู้สนับสนุน ยังคงกังขา ผลการเลือกตั้ง

จากผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น โดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงยืนยันว่า ผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นไม่เป็นธรรม ไม่โปร่งใส จากการนับคะแนนการเลือกตั้งที่มีผู้ใช้สิทธิ์ทางไปรษณีย์ในช่วงหลังจากที่พ้นวันเลือกตั้งไปแล้ว และหลายหน่วยที่ทรัมป์ระบุว่า ไม่ให้ผู้สังเกตการณ์ของทรัมป์ เข้าร่วมในการสังเกตการณ์นับคะแนนอีกด้วย

ซึ่งทรัมป์ ก็ได้อ้างถึงคะแนนเสียงกว่า 70 ล้านเสียงที่ตนเองได้รับ ยืนยันว่าตนเองเป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้งชอบธรรม

ทรัมป์ อ้าง 71 ล้านเสียง

และในเวลาไม่นานนัก ข้อความในทวีตเตอร์ของทรัมป์ ก็ถูกขึ้นป้ายโดย Twitter ถึงความไม่ถูกต้องของข้อมูล ซึ่งในช่วง 2-3 วันนี้ ข้อความที่ทรัมป์ ได้โพสต์ขึ้นบน Twitter อย่างต่อเนื่องในหลายข้อความ จากประเด็นเรื่องของการนับคะแนนที่จากผู้ที่ใช้สิทธิ์เลือกตั้งทางไปรษณีย์

ผู้สนับสนุนทั้งสองฝ่าย

ในหลาย ๆ เมือง มีการรวมกันของทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่สนับสนุนไบเดนและฝ่ายสนับสนุนทรัมป์ โดยในกลุ่มผู้สนับสนุนไบเดน ก็ได้ออกมารวมตัวกันร้องเพลง เต้นรำกันในหลายเมืองด้วยกัน พร้อมแสดงความยินดีกับพรรคเดโมเครต ที่ได้รับคะแนนเสียงอย่างมาก ทำให้ชนะทั้งตำแหน่งประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดี เป็นของเดโมเครตทั้งสองตำแหน่ง

https://twitter.com/IsaacRadford/status/1325116492237713413
ในชิคาโก
https://twitter.com/tomtreadwell/status/1325115932772020229
นิวยอร์ค

ทางด้านของกลุ่มผู้สนับสนุนทรัปม์ ก็ยังคงออกมาเรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่ หยุดการโกงการเลือกตั้งด้วยการนำบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์ออกมานับ และยังคงเรียกร้องให้ทรัมป์เป็น ปธน. ต่อไปอีก 4 ปี

กลุ่มผุ้สนับสนุนทรัมป์ ที่มิชิแกน

ในขณะที่ Top Trend บนทวิตเตอร์ ของสหรัฐฯ หลังผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการปรากฎว่า ไบเดน ชนะในเพนซิลเวเนีย และ เนวาด้า ทำให้เกิดกระแสการพูดถึง

  • ไบเดน มากกว่า 2.6 ล้านครั้ง
  • คาเมร่า เฮริส 1.26 ล้านครั้ง
  • โดนัลด์ ทรัปม์ 1.2 ล้านครั้ง
  • YOU’RE FIRED 4.6 แสนครั้ง
  • Madam Vice President 2.15 แสนครั้ง (หมายถึงคาเมร่า เฮริส)

รวมถึงยังมี Hashtags อย่าง #PresidentElectJoe, และ #ByeByeTrump อีกด้วย