ประเด็นน่าสนใจ
- หากจะรับสิทธินี้ ลูกจ้างต้องไปขึ้นทะเบียนหางานที่สำนักงานจัดหางานของรัฐ ทั่วประเทศภายใน 30 วันหลังถูกเลิกจ้างหรือลาออกจากงาน
- การลงทะเบียนกรณีว่างงาน นอกจากไปที่สำนักงานจัดหางาน แล้วสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ได้ที่ http://empui.doe.go.th/auth/index เพื่อลดขั้นตอน
รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (22 พ.ค. 2562) นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ได้ออกมาเปิดเผยข้อแนะนำลูกจ้าง ที่ถูกเลิกจ้าง หรือลาออกจากงาน ว่า
หากลูกจ้างได้ส่งเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน หรือประมาณ 1 ปี 3 เดือนก่อนการว่างงาน พวกเขาจะได้รับสิทธิคุ้มครองประโยชน์ของผู้ประกันตนในกรณีว่างงาน จากการถูกเลิกจ้าง หรือลาออกจากงานทันที
โดยสิทธินี้จะคุ้มครองผู้ว่างงานนาน 6 เดือน ซึ่งการรับสิทธิดังกล่าว ก็สามารถทำได้ด้วยการไปขึ้นทะเบียนได้เป็นผู้ว่างงานที่สำนักงานจัดหางานของรัฐ ทั่วประเทศภายใน 30 วันหลังถูกเลิกจ้างหรือลาออกจากงาน หรือสามารถลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ ง http://empui.doe.go.th/auth/index ด้วยการกรอกเพียงเลขบัตรประชาชนเท่านั้น เพื่อลดขั้นตอนการเดินทางขึ้นทะเบียน และรายงานตัว ณ สำนักงานจัดหางาน
สำหรับขั้นตอนการยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานผ่านระบบอินเตอร์เน็ตนั้น ผู้ประกันตนสามารถลงทะเบียนสมาชิกในเว็บไซต์ http://empui.doe.go.th/auth/index โดยใช้ข้อมูลจากบัตรประชาชนพร้อมกรอกเลขหลังบัตรประชาชน (laser Code)
โดยจะได้รหัสผ่านเพื่อใช้งานระบบฯ เมื่อลงทะเบียนเข้าสู่ระบบเสร็จสิ้นแล้ว ให้ผู้ประกันตนมายื่นแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน สปส. 2-01/7 พร้อมเอกสารประกอบการยื่นแบบคำขอ ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรก ซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้ประกันตน ส่งสำเนาแบบคำขอ ณ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทุกแห่งทั่วประเทศที่ท่านสะดวก ทั้งนี้ผู้ขอรับสิทธิต้องรายงานตัวผ่านระบบเดือนละ 1 ครั้ง
กรณีที่ผู้ประกันตนว่างงานเพราะถูกเลิกจ้างนั้น จะได้รับเงินทดแทนในระหว่างว่างงาน อัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างที่นำส่งเงินสมทบ ระยะเวลาไม่เกิน 180 วัน
ส่วนกรณีที่ผู้ประกันตนลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอน ผู้ประกันตนจะได้รับเงินทดแทนในระหว่างการว่างงานอัตราร้อยละ 30 ของค่าจ้างที่นำส่งเงินสมทบ ระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน
หากผู้ประกันตนประสงค์จะใช้สิทธิประกันสังคมต่อไป สามารถที่จะสมัครเป็นผู้ประกันตน โดยสมัครใจตามมาตรา 39 โดยยื่นแบบคำขอเป็นผู้ประกันตน ตามมาตรา 39 (สปส.1-20) ด้วยตนเองภายในระยะเวลา 6 เดือน นับแต่วันที่ออกจากงาน
ซึ่งผู้ประกันตนตามมาตรา 39 จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายประกันสังคมต่อไปรวม 6 กรณี ได้แก่ ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย,ทุพพลภาพ,ตายไม่เนื่องจากการทำงาน,คลอดบุตร,สงเคราะห์บุตร,ชราภาพ โดยผู้ประกันตนจะนำส่งเงินสมทบในอัตราเดือนละ 432 บาท ซึ่งปัจจุบันสามารถส่งเงินสมทบได้หลายช่องทาง
หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 12 แห่ง/จังหวัด/สาขาทั่วประเทศ หรือโทร.1506 ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ