วันนี้ (22 พ.ค. 62) มีรายงานว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ให้สัมภาษณ์สื่อถึงสิ่งที่พูดคุยกันในที่ประชุมส.ส.พรรค เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา ทั้งที่เป็นคนห้ามคนในพรรคไม่ให้พูด โดยมีรายละเอียดดังนี้…
วาจาจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
ความจริงผมไม่อยากพูดเรื่องการเลือกหัวหน้า ปชป. ที่ผ่านมาอีก และเมื่อวาน (21 พ.ค. 62) ก็มีการพูดคุยกันในพรรคไปแล้ว ผมได้พูดไปแล้วว่าเรื่องที่ผมเขียนเป็นเรื่องส่วนตัวที่ผมประสบมาและเป็นความรู้สึกส่วนตัวของผมที่ผมคิดว่าผมมีสิทธิที่จะพูดจะเขียนได้ แต่ประธานที่ปรึกษาพรรคซึ่งเป็นผู้ที่หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาก็บอกว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรพูดข้างนอกควรนำมาพูดกันภายในพรรค ซึ่งผมก็เคารพในแนวทางที่ว่านี้จึงตั้งใจว่าจะไม่พูดไม่เขียนถึงเรื่องนี้อีก
อย่างไรก็ตาม ผมกลับได้รับทราบภายหลังการประชุมว่าประธานที่ปรึกษาพรรคไปให้สัมภาษณ์ถึงผม และมีรายงานว่าในที่ประชุมได้ต่อว่าผมและผมนั่งเฉยๆไม่โต้ตอบอะไร เรียนตรงๆว่าผมไม่ค่อยเชื่อ จะเป็นไปได้อย่างไรที่คนระดับประธานที่ปรึกษาที่เพิ่งพูดว่ามีอะไรให้พูดในพรรคจะออกไปสัมภาษณ์เรื่องนี้นอกพรรคเสียเอง แต่เมื่อหลายคนยืนยันผมจึงโพสต์ข้อความสั้นๆเพียงว่าในพรรคมีพยานหลายคน เพราะหากใครอยากรู้ความจริงว่าผมนั่งเฉยๆหรือผมลุกขึ้นพูดตอบก็สามารถสอบถามกับผู้ที่อยู่ในที่ประชุมได้เองอยู่แล้ว
ผมยังคงรักษาวิถีปฏิบัติที่ควรทำคือให้จบในที่ประชุม แต่เช้านี้กลับมีข่าวในทำนองว่าผมถูกประธานที่ปรึกษาเชือดบ้างถูกกรีดบ้างอะไรบ้าง ผมจึงต้องขออนุญาตเล่าความเป็นมาเป็นไปของการประชุมเมื่อวานว่าเป็นอย่างไรอีกครั้งเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องและเพื่อความเป็นธรรมของตัวผมเอง ส่วนใครจะคิดเห็นอย่างไรไม่ว่ากัน
ผมขอเรียนว่าทันทีที่ประธานที่ปรึกษาพูดจบผมได้ลุกขึ้นพูดตอบทันที เป็นรายประเด็นอย่างชัดเจน ซึ่งไม่ขอลงรายละเอียด ขอให้เป็นเรื่องของการประชุมไป แต่ผมมั่นใจว่าสามารถชี้แจงทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด และนอกจากผมยังมีท่านอิสสระ สมชัย ที่ลุกขึ้นขอให้ประธานที่ปรึกษาชี้แจงในประเด็นที่ท่านพูดพาดพิงถึง ส.ส. อีสาน ประธานที่ปรึกษาได้พูดตอบในลักษณะขอโทษ ท่านอิสสระบอกว่า คิดว่าได้พูดไปแล้วว่าท่านหมายถึง ส.ส. จังหวัดหนึ่งและไม่ใช่ ปชป. ตามมาด้วยท่านสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ที่ลุกขึ้นพูดถึงกรณีที่ถูกอดีต ส.ส. ท่านหนึ่งเขียนแสดงความคิดเห็นต่อว่าท่าน ตามมาด้วยท่านถาวร เสนเนียม ที่ลุกขึ้นพูดว่าท่านเป็นผู้ใหญ่แล้ว เป็น ส.ส. มานาน เหตุใดท่านจะพูดจาแสดงความคิดเห็นส่วนตัวไม่ได้ในขณะที่คนอื่นๆ พูดได้ทำได้ หลังจากนั้นอดีตหัวหน้าพรรคท่านหนึ่งได้ลุกขึ้นพูดให้บรรยากาศคลายความตึงเครียดลง เสร็จแล้วประธานที่ปรึกษาก็เดินออกจากห้องประชุมไป ที่ประชุมก็ประชุมหารือกันในเรื่องอื่นๆ จนปิดการประชุม
ก็เท่านี้เอง พูดกันแบบตรงไปตรงมาแบบสุภาพบุรุษแบบลูกผู้ชาย ผมไม่เห็นว่ามีใครเชือดใครหรือกรีดใครเลยครับ ทั้งหมดที่เล่ามานี้เป็นความจริง มีการบันทึกเสียงของทุกคนไว้โดยเจ้าหน้าที่ของพรรค ผมตั้งใจจะเก็บการบันทึกเสียงของผมไว้เป็นประวัติและข้อมูลส่วนตัวของผมและพร้อมจะเปิดเผยหากจำเป็น จึงให้เพื่อน ส.ส. ท่านหนึ่งไปติดต่อขอข้อมูลการบันทึกเสียงของผมจากเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธอ้างว่าต้องให้ท่านจุรินทร์อนุญาตก่อน ผมอยู่พรรคนี้มา 27 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่ ส.ส. จะขออะไรต้องให้หัวหน้าพรรคอนุญาตก่อนโดยเฉพาะที่เป็นสิทธิส่วนตัวเป็นเรื่องส่วนตัว ก็ไม่เป็นไร ผมยึดมั่นว่า “วาจาจริงเป็นสิ่งไม่ตาย” ครับ