ประเด็นน่าสนใจ
- ปลัดกระทรวงการคลัง เผย บพิรุธธุรกรรม ในโครงการคนละครึ่ง โดยมีผู้ลงทะเบียนสวมรอยเป็นร้านค้า เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง
- เร่งตรวจสอบร้านค้าในโครงการทั้ง 200,000 แห่งทั่วประเทศ พร้อมพิสูจน์ข้อเท็จจริง
- ร้านค้าที่เข้าข่ายทุจริต ไม่น้อยกว่า 10 แห่ง ซึ่งมีปริมาณธุรกรรมสูงผิดปกติ
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ภายหลังธนาคารกรุงไทย พบพิรุธธุรกรรม ในโครงการคนละครึ่ง โดยมีผู้ลงทะเบียนสวมรอยเป็นร้านค้า เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง แต่ไม่ได้ประกอบกิจการใดๆ เบื้องต้นพบความผิดชัดเจน 2 แห่ง
จึงสั่งคลังจังหวัด ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย เร่งตรวจสอบร้านค้าในโครงการทั้ง 200,000 แห่งทั่วประเทศ พร้อมพิสูจน์ข้อเท็จจริง ร้านค้าที่เข้าข่ายทุจริต ไม่น้อยกว่า 10 แห่ง ซึ่งมีปริมาณธุรกรรมสูงผิดปกติ ก่อนขยายผลติดตามดำเนินคดีตามกฎหมาย หากพบความผิดร่วมกับผู้ใช้งาน
ขณะที่นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด มหาชน กล่าวว่า ธนาคาร ไม่ต้องการเปิดเผยลักษณะพฤติกรรมของผู้กระทำความผิดในโครงการคนคะครึ่ง เพื่อไม่ให้เกิดการเลียนแบบ หรือ ปรับตัวหลบหลีกการตรวจสอบ
ส่วนการประกาศเชิญชวนรับแลกเงินสด หรือ รับซื้อสิทธิ์ในโครงการตามโชเชียลมีเดียนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า บางส่วนเป็นเพียงการโฆษณาชวนเชื่อเท่านั้น และบางส่วนอยู่ระหว่างประมวลผลข้อมูล ซึ่งธนาคาร ประสานความร่วมมือกับกระทรวงการคลังอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบธุรกรรมที่ผิดปกติ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ เป็นไปอย่างโปร่งใส และจ่ายเงินถึงมือผู้ประกอบการรายย่อยตัวจริง
ปัจจุบัน โครงการคนละครึ่ง มีร้านค้า หาบเร่ แผงลอย เข้าร่วมโครงการมากกว่า 400,000 แห่ง พร้อมรับจ่ายเงินในโครงการ 2 แห่ง ซึ่งกระทรวงการคลัง มีแนวคิดให้อำนาจกำนันผู้ใหญ่บ้าน รับรองร้านค้าที่จะเข้าโครงการ เพื่อช่วยให้ผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ สามารถใช้จ่ายผ่านร้านในโครงการ และกระตุ้นยอดขายร้านค้าชุมชนให้มากขึ้น