“พรรณิการ์” นำทีม ส.ส. หญิงพรรคอนาคตใหม่ ขอบคุณเพื่อน ส.ส. ร่วมโหวตให้ “เยาวลักษณ์” เป็นรองประธานสภาฯ ส่งเสริมบทบาทผู้หญิง ก่อนติง ส.ส.บางคนยังมีพฤติกรรมเหยียดเพศ-อายุ ในการประชุมสภาฯ 2 วันที่ผ่านมา แนะปรับทัศนคติ
นางสาวพรรณิการ์ วานิช ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วย ส.ส. หญิงพรรคอนาคตใหม่ ร่วมแถลงข่าวในสองประเด็นสำคัญต่อสื่อมวลชนรัฐสภา นั่นคือกรณีการลงมติเลือกรองประธานสภาคนที่ 1
ซึ่งฝ่ายประชาธิปไตย 7 พรรคได้ร่วมกันส่งชื่อเยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ลงชิงตำแหน่งกับสุชาติ ตันเจริญ ส.ส. ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ และกรณีของพฤติการณ์เหยียดเพศของ ส.ส. บางคนในการประชุมสภาสองวันที่ผ่านมา
โดยพรรณิการ์ระบุว่าจากการเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าแม้เยาวลักษณ์จะแพ้ แต่ก็มีเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่ว่าจะอยู่ในพรรคเดียวกัน ไม่ว่าจะอยู่ในแนวร่วมฝั่งเดียวกันหรือไม่ ได้ตัดสินใจโหวตให้กับเยาวลักษณ์เป็นจำนวนไม่น้อย
ซึ่งเป็นนิมิตหมายอันดี ว่ามีเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยที่เห็นความสำคัญของหลักการที่ถูกต้อง ในการเห็นความสำคัญในบทบาทของผู้หญิง
อย่างไรก็ดี พรรณิการ์ระบุว่าในตลอดสองวันที่ผ่านมานี้ มีความพยายามที่จะให้ผู้แทนราษฎรที่เป็นผู้หญิงหรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ รวมถึงผู้แทนราษฎรที่มีอายุน้อย มีความแตกต่างแปลกแยกจากผู้แทนราษฎรในอดีตที่ผ่านมา
โดยตลอดสองวันที่เข้ามาทำหน้าที่ ได้พบเห็นเพื่อนสมาชิกผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยที่ยังมีพฤติกรรมเหยียดเพศและอายุ ทั้งโดยตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ
ทั้งนี้ พรรคอนาคตใหม่ต้องการยืนยันในหลักการคนเท่ากัน ไม่ว่าจะมีความแตกต่างทางด้านเพศหรืออายุก็ตาม และขอให้ผู้แทนราษฎรจำนวนหนึ่งมี่ยังคงมีพฤติกรรมเหยียดเพศและดูถูกคนที่อายุ ปรับเปลี่ยนพฤติการณ์ดังกล่าวเสีย
“รัฐสภาคือพื้นที่ของประชาธิปไตย และหัวใจของประชาธิปไตยคือความเท่าเทียมกันของมนุษย์ คนเท่ากันคือหลักการที่สำคัญที่สุดที่ผู้แทนทุกคนจำเป็นต้องมีไว้ในจิตใจ เพราะฉะนั้นขอให้เริ่มต้นขึ้นที่นี่ พฤติกรรมเหยียดเพศ เหยียดอายุ ขอให้ยุติลงที่นี่ ขอให้ผู้แทนราษฎรประพฤติตนให้สมกับที่เป็นผู้แทนราษฎรในระบอบประชาธิปไตย ที่คำว่าคนเท่ากันคือสิ่งที่สำคัญที่สุด” พรรณิการ์กล่าว
ส่วนเรื่องข้อผิดพลาดในการนับคะแนนที่เกิดขึ้นจนมีการตั้งข้อสังเกตนั้น พรรณิการ์ระบุว่าเป็นความผิดพลาดทางเทคนิคของกรรมการนับคะแนนเท่านั้น เนื่องจากมีการขีดคะแนนให้เยาวลักษณ์ซ้ำระหว่างที่มีการสอบปรึกษากัน ว่ากรณีบัตรลงคะแนนเขียนชื่อของเยาวลักษ์ผิดเป็น ‘เสาวลักษณ์’ นั้นจะให้นับเป็นบัตรดีหรือบัตรเสีย
ส่วนกรณีที่ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าการลงคะแนนเสียงให้เยาวลักษณ์โดยคะแนนอาจจะมาจากขั้วตรงข้ามถือว่า เป็นเรื่องของงูเห่าหรือไม่
พรรณิการ์ระบุว่าไม่น่าจะเรียกว่าเป็นงูเห่าได้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นอาจเป็นได้ทั้งการโหวตตามเอกสิทธิ์ของ ส.ส. ที่มี เป็นการโหวตตามอุดมการณ์ จุดยืน หลักการ หรืออาจจะเป็นการโหวตตามผลประโยชน์ที่ได้รับการต่อรองก็ได้ ดังจะเห็นได้ว่าการลงคะแนนที่ผ่านมา คะแนนของแต่ละฝั่งมีความแตกต่างกันไม่มาก
หมายความว่าในแต่ละครั้งมีการตกลงใจเจรจากันเป็นรอบๆ ไป ไม่ว่าจะด้วยผลประโยชน์หรือการตกลงใจด้วยหลักการจุดยืนที่ถูกต้องก็ตาม “เพราะฉะนั้นจึงขอเรียกร้อง ว่าวันนี้เพื่อนผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยได้ตัดสินใจด้วยหลักการที่ถูกต้อง และในครั้งต่อๆ ไปก็ขอให้ท่านทำในแบบเดียวกัน” พรรณิการ์กล่าว