ประเด็นน่าสนใจ
- จากการชุมนุมวันที่ 15 ต.ค. แกนนำนัดหมายชุมนุม 17.00 น. ที่แยกราชประสงค์
- จนท. ตรึงกำลัง-ปิดการจราจรตั้งแต่ช่วงบ่าย ผู้ชุมนุมย้ายไปแยกปทุมวัน
- ถึงเวลานัด 17.00 น. ผู้ชุมนุมรวมตัว ปิดแยกปทุมวัน ส่วน กอร.ฉ. แถลง ประกาศให้ยุติการชุมนุมและกลับบ้าน
- กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงปักหลัก ก่อนที่เวลาประมาณ 18.30 น. ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนเข้าสลายการชุมนุมและควบคุมพื้นที่
- จนกระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น. เปิดการจราจร บริเวณแยกปทุมวันอีกครั้ง
สรุปเหตุการณ์ในแต่ละช่วง
ช่วง 14.00 น. – 16.00 น.
หลังจากที่ทาง กอร.ฉ. ประกาศว่าจะมีการปิดการจราจร และพื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์ ก็เริ่มมีประชาชน ห้างร้าน เริ่มให้พนักงานกลับบ้าน ซึ่งเมื่อถึงเวลา เจ้าหน้าที่เริ่มควบคุมพื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์ โดยมีการตรึงกำลังโดยรอบ ปิดการจราจร-ทางเดินสกายวอล์ค-สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส
ช่วง 16.00 น. – 18.00 น.
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปิดกั้นบริเวณแยกราชประสงค์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เริ่มมีกระแสข่าวว่า จะมีการเปลี่ยนที่ชุมนุม ก่อนที่จะชัดเจนในเวลา 16.30 น. ว่า มีการเปลี่ยนสถานที่ชุมนุมจากแยกราชประสงค์ มาเป็น แยกปทุมวัน ก็เริ่มเห็นการรวมกลุ่มบริเวณแยกปทุมวัน ทั้งบนทางเชื่อมและฟุตบาทมากขึ้น
จนถึงเวลานัดหมาย กลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มแรกได้ลงไปยังถนนบริเวณแยกปทุมวัน และสามารถปิดแยกปทุมวันได้ หลังจากนั้นไม่นาน กอร.ฉ. แถลงให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุม
ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมก็ยังคงปักหลักอยู่ที่แยกปทุมวัน และยังทยอยกันมาสมทบต่อเนื่อง โดยมีไมค์ ระยอง ขึ้นปราศรัย
ช่วง 18.00 น. – 23.00 น.
หลังจากที่ กอร.ฉ. แถลงจบ ก็มีการเคลื่อนตำรวจควบคุมฝูงชุนพร้อมโล่-ไม้ รวมถึงรถฉีดน้ำแรงดันสูง มายังบริเวณแยกเฉลิมเผ่า พร้อมกับตั้งขบวน และมีการเดินหน้าขยับแนวมาเรื่อย ๆ ในขณะเดียวกันทางกลุ่มผู้ชุมนุม ได้มีการนำแผงเหล็ก-รั้วเหล็กมาตั้งแนวป้องกัน
เวลาประมาณ 18.30 น. ขบวนแถวตร.ควบคุมฝูงชน ขยับแนวเดินหน้ามาถึงบริเวณแนวป้องกันของกลุ่มผู้ชุมนุม ก่อนประกาศให้ยุติการชุมนุม และเดินทางกลับบ้าน โดยหลังจากประกาศเสร็จ โดยระบุว่า อีก 3 นาที จะมีการฉีดน้ำ
เมื่อถึงเวลา ตร.ประกาศแจ้งเตือน, ฉีดน้ำ รวมถึงน้ำผสมสีและสารทำให้ระคายเคือง พรอ้มกับเดินหน้าเข้าควบคุมพื้นที่ ทำให้ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ถอยออกไปจากพื้นที่บริเวณแยกปทุมวัน โดยกลุ่มใหญ่ถอยไปยังบริเวณพื้นที่ของจุฬาฯ – สามย่าน บางส่วนถอยไปตั้งหลักบริเวณสนามกีฬาแห่งชาติ – เทคโนฯ ปทุมวัน และอีกกลุ่มหนึ่งถอยไปตั้งหลักบริเวณสะพานหัวช้าง
จนในช่วงเวลาประมาณ 23.30 น. เศษ จึงได้มีการเปิดแยกปทุมวันให้รถสามารถวิ่งได้
ย้อนไทม์ไลน์เหตุการณ์
22.00 น. – กอร.ฉ. มีแถลง.
- น้ำและสารเคมีที่ผสม ซึ่งมีใช้กันทั่วโลก
- มีการแจ้งเตือน ปฏิบัติการจากเบาไปหาหนัก
- ตัวสารที่ใช้ เมื่อสัมผัสก็จะมีอาการระคายเคือง
- สารที่เป็นสี ใช้เพื่อแยกแยะผู้ร่วมชุมนุม และฉีดน้ำเพื่อระงับยับยั้ง
- ควบคุมตัวผู้ชุมนุม 7 คน
- การชุมนุมผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
- มีดำเนินการไปตามขั้นตอน เบา ไปหาหนัก
- ได้มีประกาศแจ้งเตือนด้วยวาจา ให้ยุติ แต่เมื่อผู้ชุมนุมไม่ยุติ จึงจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
- ใช้อุปกรณ์/เครื่องมือตามความจำเป็น
- วันนี้ สามารถควบคุมพื้นที่ได้ทั้งหมดเรียบร้อย
- ได้มีการแจ้งเตือน ถึงข้อห้าม ข้อกำหนด อะไรทำได้ ทำไม่ได้ ไปแล้ว
- สารที่ใช้ จะทำให้เกิดการระคายเคือง แต่ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด
- เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นต่อผู้บาดเจ็บทั้ง จนท. และผู้ชุมนุม
- จนท. ใช้เครื่องมือ ไม้ โล่ อุปกรณ์ป้องกันตัว ตามที่เป็นมาตรฐานสากล ตามความจำเป็น ไม่ได้มีการพกพาอาวุธแต่อย่างใด
- ฝากย้ำเตือน ขณะนี้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และกอร.ฉ. มีประกาศ-คำสั่งต่าง ๆ ชัดเจนแล้ว – ดังนั้นรถเครื่องเสียง-สุขา-ขนส่งอาหาร นำมาใช้ในการชุมนุม ถือว่าผิด
- ขณะนี้มีข่าวลือ ข่าวปลอมต่าง ๆ ขอให้ระวัง พ.ร.บ. คอมฯ ด้วย
- การเชิญชวน ชักชวน เผยแพร่ข้อมูลการมาร่วมชุมนุมถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย
- กำลังอยู่ในระหว่างการขออนุมัติหมายจับ และทำการจับกุมต่อไป
20.00 น. – ตร.ควบคุมฝูงชนยังคงอยู่ด้านลิโด้.
เจ้าหน้าที่ยังคงตั้งแนวอยู่บริเวณด้านหน้าลิโด้ ใขณะที่ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เดินออกจากพื้นที่แยกปทุมวันแล้ว โดยบางส่วนได้เข้าไปยังพื้นที่ของจุฬาฯ ที่มีการเปิดให้ผู้ชุมนุมเข้าไปหลบได้ บางส่วนเดินมุ่งหน้าไปยังบริเวณสามย่าน เพื่อกลับบ้าน
โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ระบุว่า มีการประกาศแจ้งเตือนอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน แต่ยังคงมีการฝ่าฝืนอยู่ จึงจำเป็นจะต้องบังคับใช้ทางข้อกฎหมายในทุกมิติ
19.00 น. – ตำรวจยังคงขยับแนว – ฉีดน้ำ / ผู้ชุมนุมย้ายไปจุฬา.
กลุ่มผู้ชุมนุมจากบริเวณแยกปทุมวัน ได้ถอยไปยังพื้นที่ของจุฬาฯ
ในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ประกาศ ให้ผู้ชุมนุม หรือผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง ขอให้เดินทางกลับบ้าน ใครที่ยังชุมนุมอยู่จะมีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด มีการขยับแนวอีกครั้งแล้ว
ในส่วนของน้ำที่ฉีดมานั้น คาดว่า มีการผสมแก๊สน้ำตาชนิดน้ำ จึงทำให้มีอาการคล้ายถูกแก๊สน้ำตาชนิดอื่นที่เคยเห็นกัน เช่น แบบควัน
FYI : ในการฉีดน้ำ ระลอกแรก เป็นน้ำเปล่า ซึ่งหลังจากที่มีการหยุดเว้น และมีการฉีดในรอบหลัง ( 3 หรือ 4 ประมาณนั้น) ก็เริ่มทำให้รู้สึกแสบ ได้กลิ่นคล้ายแก๊สน้ำตา
18.50 น. – กอร.ฉ. แถลงให้ยุติการชุมนุม
ทางกอร.ฉ. ได้แถลงให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุม เนื่องจากตอนนี้อยู่ภายใต้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งประกาศเตือนไปก่อนหน้านี้ จึงจอให้ผู้ชุมนุมกลับบ้าน แยกย้าย หากยังฝ่าฝืนก็จะมีการดำเนินตามมาตรการต่อไป ตามกฎหมาย
18.50 น. – ตำรวจควบคุมฝูงชนดันแนวกลุ่มผู้ชุมนุม.
ในขณะนี้ ตร.ควบคุมฝูงชน เข้าดันแนวกับทางกลุ่มผู้ชุมนุมแล้ว ร่วมกับมีการฉีดน้ำ ในขณะที่ทางฝั่งผู้ชุมนุมยังคงดันแนวอยู่ และมีการโยนของข้ามมาบางส่วน สถานการณ์ในขณะนี้กำลังดันแนวกันอยู่
18.30 น. – ตำรวจควบคุมฝูงชน ขยับขบวนจุดแยกเฉลิมเผ่า.
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนได้ตั้งขบวนบริเวณแยกเฉลิมเผ่า และเคลื่อนขบวนเข้ามาใกล้กับกลุ่มผู้ชุมนุม มีการเผชิญหน้า ในระยะใกล้และมีการฉีดน้ำบางส่วนเข้าใส่ผู้ชุมนุมแล้ว
18.00 น. – BTS ประกาศปิดสถานีเพิ่ม ตามคำสั่ง กอร.ฉ.
หลังจากที่ กอร.ฉ. ได้ประกาศคำสั่งให้ปิดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เพิ่ม ซึ่งทางบีทีเอส ก็มีประกาศการปิดสถานีเพิ่มเติมโดยในขณะนี้ มีการปิดแล้ว 5 สถานี สถานีราชดำริ สถานีชิดลม สถานีสยาม สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ และสถานีราชเทวี ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป
ส่วนในสถานีอื่น ๆ ยังคงเปิดให้บริการตามปรกติ
17.45 น. – ผู้ชุมนุมเข้าชุมนุมพื้นที่แยกปทุมวัน
หลังจากที่มีการเปลี่ยนที่ชุมนุมมาเป็นแยกปทุมวัน ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมมารวมตัวกันและลงไปอยู่บนพื้นที่แยกปทุมวันแล้ว รวมถึงมีการนำรถกระบะที่มีเครื่องขยายเสียงชุดหนึ่งไปจอดอยู่บริเวณกลางแยกอีกด้วย เพื่อใช้ในการปราศรัย
17.10 น. – ตำรวจสั่งปิดการจราจร/ BTS เพิ่ม
ตร. แถลงที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา โดยมีคำสั่งให้มีการปิดการจราจรในเส้นทางเพิ่มดังต่อไปนี้คือ
- แยกราชเทวี ถึง สามย่าน
- แยกเฉลิมเผ่า ถึง แยกเจริญผล
ได้มีการห้ามใช้อาคารสถานที่ดังต่อไปนี้
- สถานี BTS บริเวณสถานี สยาม, สนามกีฬาแห่งชาติ, ราชเทวี
- ทางเชื่อมระหว่างอาคารบริเวณแยกปทุมวัน
นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ย้ำถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ว่า การชุมนุมมีความผิดทางกฎหมาย รวมถึงการชักชวน เชิญชวน ผ่านโซเซียลมีเดียว ด้วย ดังนั้นพื้นที่ที่มีการประกาศไป จึงเป็นการปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ และบังคับใช้กฎหมายร่วมกันไปตามขั้นตอน ซึ่งในขณะนี้อยู่ในระดับของการแจ้งเตือน เป็นไปตามขั้นตอน
17.00 น. – ผู้ชุมนุมเริ่มรวมตัวบริเวณแยกปทุมวัน
ทันทีที่ถึงเวลานัดคือ 17.00 น. ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุม บางส่วนได้ลงมารวมตัวกันบริเวณแยกปทุมวัน พร้อมกับเรียกกลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่ด้านบนทางเชื่อมลงมารวมกลุ่มที่ด้านล่างด้วย รวมถึงผู้ที่อยู่บริเวณเกาะกลางถนนด้วย ทำให้แยกปทุมวันการจราจรเริ่มติดขัด
16.40 น. – กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มมาจับจองพื้นที่ หลังมีการประกาศย้ายสถานที่
ในขณะนี้ บริเวณแยกปทุมวัน บริเวณทางเชื่อมด้านบน เริ่มมีกลุ่มผู้ชุมนุมมารวมตัวกันเป็นจุด ๆ เพื่อหลบฝนกันอยู่ในขณะนี้ หลังจากที่มีการประกาศย้ายสถานที่การชุมนุมจากแยกราชประสงค์ มาเป็นแยกปทุมวัน
ซึ่งในขณะนี้ เริ่มมีทางตำรวจได้เคลื่อนย้ายกำลังพลมาตั้งแถวอยู่บริเวณใต้ทางเชื่อม
16.30 น. – ผลการพูดคุย / ตรวจค้นคณะก้าวหน้า เสร็จเรียบร้อย
นายปิยบุตร แสงกนกกุล แถลงหลังจากพูดคุยกับทางตำรวจเสร็จเรียบร้อย โดยระบุว่า
- การพูดคุยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
- การตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
- ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ไม่มีปัญหาอะไร
ซึ่งนายปิยบุตร กำลังอยู่ในระหว่างการแถลง โดยตั้งข้อสังเกตในเรื่องของกรอบการนำเสนอข่าว ที่สื่อฯ จะทำงานได้ลำบาก เนื่องจากกฎหมาย พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ค่อนข้างกว้าง และอันตรายอย่างมาก
จึงอยากให้ รบ. วางกรอบให้สื่อสามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง-เต็มที่ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นการปิดข่าว
16.00 น. – ฝนตกหนักหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ / BTS ประกาศงดให้บริการ 2 สถานี
เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น.ที่ผ่านมามีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ รวมถึงบริเวณแยกราชประสงค์ด้วย ซึ่งในขณะนี้ฝนได้ซาลงไปแล้ว ส่วนการจราจรในพื้นที่ได้มีการปิดเป็นที่เรียบร้ยอหมดแล้ว
ในขณะเดียวกันทาง รถไฟฟ้าบีทีเอส ได้ประกาศปิดให้บริการใน 2 สถานีคือ
- สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสราชดำริ
- สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสชิดลม
ตั้งแต่ 15.00 ถึง 02.00 น. ส่วนในสถานีอื่น ๆ ยังคงเปิดให้บริการตามปรกติ
15.20 น. – เซ็นทรัลเวิร์ดประกาศปิด 16.00 น.
ทางเซ็นทรัลเวิร์ด ได้ประกาศปิดห้างในเวลา 16.00 น. และให้พนักงานเดินทางกลับบ้าน ก่อนการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นตามเวลาที่นัดหมายไว้คือ 17.00 น.
15.00 น. – ตร. ขอเข้าตรวจค้นคณะก้าวหน้าฯ
เมื่อเวลา 14.20 น. ระหว่างที่คณะก้าวหน้า แถลงข่าว ‘ความเห็นต่อการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ และการดำเนินคดีกรณี ‘ขบวนเสด็จ’ ของ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โดยระบุว่า จะขอตรวจค้นตามหมายค้น ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
ซึ่งในขณะนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการพูดคยุส่วนตัวกับ นาย ปิยบุตร แสงกนกกุล
14.20 น. – ตร. เข้าดำเนินการปิดพื้นที่แยกราชประสงค์
เจ้าหน้าที่ได้เข้าปิดพื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์ แล้ว โดยมีการปิดการจราจรตามที่ได้แจ้งไว้ก่อนหน้านี้ คือตั้งแต่ แยกราชดำริถึงแยกประตูน้ำ, แยกเพลินจิต – แยกราชประสงค์ และแยกราชประสงค์-แยกเฉลิมเผ่า บริเวณทางเดินสกายวอล์คก็ได้มีการปิดเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
13.00 น. – ตร. เตรียมนำตัว สมยศ พฤกษาเกษมสุข ส่ง สน.ชนะสงคราม
นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ได้ถูกควบคุมตัวไว้ที่ สน.ลาดพร้าวเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ตามหมายจับ สน.ชนะสงคราม ในระหว่างการเยี่ยมให้กำลังใจ เอกชัย หงส์กังวาล ที่สน.ลาดพร้าว
12.50 น. – สตช. แถลงเกี่ยวกับการชุมนุม
สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้แถลงย้ำข้อกำหนดต่าง ๆ ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และให้การจัดการชุมนุมนั้น เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายดังนั้น จึงขอให้ผู้ที่จะไปร่วมในการชุมนุม ขอให้พิจารณา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการแจ้งเตือนไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ จึงจะมีการบังคับใช้กฎหมายจะเข้มข้นขึ้น ดังนั้นในการใช้สื่อโซเซียลจึงควรระมัดระวัง
นอกจากนี้ ปิดการจราจร 14.00 โดยปิดใน 3 เส้นทางคือ ตั้งแต่แยกราชดำริถึงแยกประตูน้ำ, แยกเพลินจิต – แยกราชประสงค์ และแยกราชประสงค์-แยกเฉลิมเผ่า โดยเป็นหนึ่งในมาตรการควบคุมพื้นที่
11.00 น. – นายกฯ ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 30 วัน / ยืนยันยังไม่ลาออก
นายกฯ ได้แถลงหลังจากการประชุมค.ร.ม. นัดพิเศษ ซึ่งในการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรงนั้นมีการประกาศใช้ตามกฎหมาย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ 30 วัน หากสถานการณ์ดีขึ้นโดยเร็วก็อาจยกเลิกได้เร็ว
โดยได้ย้ำเตือนว่า ที่ผ่านมาใช้ พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ดังนั้นในวันนี้ เป็นการบังคับใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ทำให้จนท. มีอำนาจดำเนินการจับกุม ตรวจค้น ฯลฯ ตามกฎหมายที่ได้มีการประกาศไว้ จึงขออย่าทำผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ ยังให้มีการติดปลอกแขนด้วยว่าเป็นสื่อมวลชน
10.30 น. – กรมราชทัณฑ์ ยืนยัน ไม่มีการทำร้ายไผ่ ดาวดิน
กรมราชทัณฑ์ ออกแถลงยืนยันกรณีมีข่าวลือว่า ว่าไผ่ ดาวดิน หรือนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หนึ่งในแกนนำคณะราษฎรอีสาน ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ซึ่งไผ่ ดาวดิน ได้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไม่มีการถูกทำร้ายแต่อย่างใด โดยไผ่ ดาวดินและกลุ่มผู้ชุมนุมอีก 17 ราย ได้ถูกนำส่งมายังเรือนจำ และอยู่ในระหว่างการกักตัว 14 วันตามมาตรการเฝ้าระวังโควิด-19 โดยอนุญาตให้เพียงทนายความเข้าเยี่ยมตามเวลาที่กำหนดเท่านั้น
09.30 น. – บุญเกื้อหนุน เข้ามอบตัว สน.ดุสิต
นายบุญเกื้อหนุน เป้าทอง หนึ่งในผู้ชุมนุมที่ถูกออกหมายจับตามความผิดในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 110 ตามหมายจับที่ 1595/2563 และ 1596/2563 ได้เข้ามอบตัวตามหมายจับกับพนักงานสอบสวน สน.พร้อมทนายความ
08.30 น. – ตร. เข้าหน้าที่เข้าจับกุม เอกชัย หงส์กังวาล
ตำรวจสน.ลาดพร้าว ได้เข้าจับกุมตัวนายเอกชัย หงส์กังวาล ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 1595/2563 และ 1596/2563 ระหว่างการออกเดินทางไปยัง สน.ดุสิต โดยตำรวจได้ควบคุมตัวไปยัง สน.ลาดพร้าว