วิธีเดียวคำนวน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์
วันที่ 1 เมษายน 2562 ที่พรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวใน 3 ประเด็นได้แก่ 1.กรณีการอบรมว่าที่ ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ และการลงนามสัตยาบันร่วมกัน 2. เรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งเปิดเผยผลคะแนนดิบรายหน่วย และ 3. ชี้แจงการคำนวนจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อตามกฎหมาย
|
โดยนายปิยบุตร กล่าวว่า กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 ตามมาตรา128 ระบุชัดเจนถึงวิธีคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ มีเพียงวิธีเดียว โดยใจความสำคัญ อยู่ที่วงเล็บ4 เมื่อนำคะแนนดิบมาคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่พึงมี พรรคใดได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อไม่ถึง 1 คน ให้ตัดพรรคนั้นออกจากการคำนวณเทียบตามบัญญัติไตรยาง ดังนั้น กกต.ต้องยึดหลักการตามที่กำหมายกำหนด ซึ่งการยึดตามกฎหมายนี้ จะทำให้พรรคอนาคตใหม่มีจำนวน ส.ส.ทั้งสิ้น 87 คน โดยแบ่งเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขต 30 คน และแบบบัญชีรายชื่อ 57 คน
นายปิยบุตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พรรคอนาคตใหม่ได้จัดอบรม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.มีการลงสัตยาบันร่วมกัน และฝากถึงพรรคการเมืองที่พยามแทรกแซง ส.ส.พรรคอนาคตใหม่เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ขอให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวซึ่ง พรรคอนาคตใหม่มีการรวบรวมหลักฐานไว้ ส่วนกรณีการนำคลิปและภาพที่กล่าวถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ไปบิดเบือน
ตนยืนยันว่า คลิปดังกล่าวเป็นงานเสวนาทางวิชาการเมื่อปี 2556 รายละเอียดพูดถึงการปรับตัวของสถาบันกษัตริย์ในประเทศต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับประชาธิปไตย ซึ่งการนำข้อความที่ตนบรรยายเมื่อ 6 ปีก่อน มาตัดใช้บางตอน โดยไม่ระบุว่าบรรยายในโอกาสใด เมื่อไร และยังใส่ตำแหน่งว่า เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ พร้อมกับนำสัญลักษณ์พรรคอนาคตใหม่ไปติดในรูปภาพด้วย เป็นการแสดงเจตนาอันไม่สุจริตของผู้กระทำและการนำสถาบันกษัตริย์มาใช้โจมตีกันทางการเมือง
การคำนวณจำนวน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อหรือปาร์ตีลิสต์ (party list)
- (1) นำคะแนนรวมทั้งประเทศที่พรรคการเมืองทุกพรรคได้รับจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตหารด้วย 500 (ซึ่งเป็นจำนวนทั้งหมดของ ส.ส.ทั้งสภา)
- นำผลลัพธ์ตาม (1) ไปหารจำนวนคะแนนรวมทั้งประเทศ ของแต่ละพรรคการเมืองที่ได้รับจากการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตทุกเขต จำนวนที่ได้รับจะเป็นจำนวน ส.ส.ที่พรรคการเมืองจะมีได้
- นำจำนวน ส.ส.ที่พรรคการเมืองจะมีได้ ลบด้วยจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ทั้งหมดที่พรรคการเมืองนั้นได้รับ ผลลัพธ์คือจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองนั้นจะได้รับ
- ถ้าพรรคการเมืองใดได้ ส.ส.แบบแบ่งเขต เท่ากับหรือสูงกว่าจำนวน ส.ส.ที่พรรคการเมืองนั้นจะมีได้ ให้พรรคนั้นมี ส.ส.ตามจำนวนที่ได้รับจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต และไม่มีสิทธิได้รับการจัดสรร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ
และให้นำจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ทั้งหมดไปจัดสรรให้แก่พรรคการเมืองที่มีจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งต่ำกว่าจำนวน ส.ส.ที่พรรคการเมืองนั้นจะมีได้ตามอัตราส่วน แต่ต้องไม่มีผลให้พรรคการเมืองใดมี ส.ส.เกินจำนวนที่จะมีได้