คุม ‘เสี่ยบิ๊ก’ อดีตประธานสโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ ฟังพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีปลอมตั๋วเงิน ตุ๋น สกสค.กู้เงินกว่า 2 พันล้าน
วันนี้ (3 เม.ย. 62) ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ควบคุมตัว นายสัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา หรือ เสี่ยบิ๊ก อายุ 43 ปี อดีตประธานสโมสรทีมฟุตบอลเพื่อนตำรวจในศึกไทยลีก เพื่อเข้าฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่ห้องพิจารณา 811 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีดำ อ.1134/59 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้องนายสัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา เป็นจำเลยในความผิดฐานปลอม และใช้ตั๋วเงินปลอม
ในกรณีระหว่างวันที่ 21 ธ.ค. 2556 – 21 ก.ค. 2557 จำเลยกับบริษัท บิลเลี่ยน อิโนเวเทค กรุ๊ป จำกัด ร่วมกัน ปลอมตั๋วแลกเงิน หรือดราฟท์ของธนาคารฮ่องกง และเซี่ยงไฮ้ แบงค์กิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด เพื่อนำไปใช้อ้างต่อ สำนักงานสวัสดิการ และสวัสดิภาพบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ว่าเป็นตั๋วแลกเงินที่แท้จริงจากธนาคารฮ่องกง
ที่ออกคำสั่งจ่ายเงินตามคำสั่งของสำนักงาน สกสค. ผู้เสียหายจำนวน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 3,200 ) ล้านบาท ยึดถือไว้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันตั๋วสัญญา ใช้เงินของบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด ที่จำเลยนำมาหลอกขายให้ แก่ สกสค. โดยคณะกรรมการบริหารกองทุนสนับสนุนพิเศษ และส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ สมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.)
โดยคดีนี้ศาลอาญา มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2561 ให้ลงโทษนายสัมฤทธิ์ จำเลย ฐานใช้ตั๋วเงินปลอม ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 10 ปี สำหรับ นายสัมฤทธิ์ หรือ เสี่ยบิ๊ก ได้รับฉายาว่า ‘ปาเกียว เมืองไทย’ เนื่องจากมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับแมนนี ปาเกียว นักชกชื่อดังแชมป์โลกขวัญใจชาวฟิลิปปินส์ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.1 จับกุมตัวเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2559