พายุฤดูร้อนทำพิษ กัดเซาะชายหาดที่ปรับปรุงใหม่พังเละ ทั้งๆ ที่แล้วเสร็จเมื่อเดือนก่อน จี้หน่วยงานเร่งแก้ปัญหาป้องเหตุซ้ำ
จากกรณีที่ช่วงเย็นของวานนี้ (2 เม.ย. 2562) ได้เกิดมีพายุฤดูร้อนพัดถล่มในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ทำให้หลายพื้นที่เกิดภาวะน้ำท่วมขัง อยู่ระหว่างรอการระบายหลายจุด จากการที่มีฝนตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องกว่า 2 ชั่วโมง
ล่าสุดวันนี้ (3 เม.ย. 2562) เพจต่างๆ ของเมืองพัทยา ได้มีการเผยแพร่ภาพหลังจากที่สถานการณ์ดังกล่าวกลับสู่ภาวะปกติ โดยเฉพาะเพจ พัทยา-รู้ยัง ได้เผยให้เห็นว่าทรายหาดของเมืองบริเวณถนนเลียบหาดพัทยา ที่ปรับปรุงใหม่ให้คล้ายกับหาดไมอามีของสหรัฐฯ กลายเป็นร่องน้ำขนาดใหญ่ ไม่เหลือเคล้าโคลงเดิมที่เคยสวยงามก่อนหน้านี้ หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนพังเสียหาย
ถนนเลียบหาดพัทยา ตอนนี้!! ยับเลย
# หาดพัทยาอันสวยงาน และความตั้งใจดี หายไปกับสายน้ำ — ใน เมืองพัทยา
ทั้งนี้เมื่อภาพดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปทำให้มีคนส่งต่อและเข้าไปแสดงความเห็นถึงเรื่องเกิดขึ้นเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่ต่างเสียดายที่หาดดังกล่าวได้รับความเสียหายไปกับพายุฤดูร้อนในครั้งนี้ พร้อมกับเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระดมกำลังคิดแก้ปัญหาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก
สำหรับหาดทรายดังกล่าว เป็น 1 ในโครงการเสริมสร้างชายหาดหรือบีชนอริชเม้นท์ มูลค่า 500 ล้านบาท ของเมืองพัทยา ที่ต้องการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในระยะยาวและสามารถฟื้นฟูสภาพชายหาดพัทยา ให้กลับมาสวยงามเหมือนในอดีต เพิ่มศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้ดังเดิม
ซึ่งการพัฒนาโครงการนี้ ประกอบไปด้วยการเติมทรายเสริมชายหาดพัทยามีความกว้าง 35 เมตร ระยะทางจากชายหาดพัทยาเหนือบริเวณโรงแรมดุสิตธานี จนถึงชายหาดพัทยาใต้บริเวณวอล์คกิ้งสตรีทความยาวประมาณ 2,800 กิโลเมตร
โดยนำทรายมาจากใต้ท้องทะเลลึกบริเวณเกาะรางเกวียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยใช้ทรายประมาณ 360,000 ลบ.ม. มีผลตอบแทนของโครงการด้านเศรษฐศาสตร์ที่คุ้มค่า โดยจากผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าเงิน 1 บาทที่ลงไปในการเสริมทรายชายหาดพัทยา จะสร้างเงินกลับสู่ระบบเศรษฐกิจถึงประมาณ 37 บาท
เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะช่วยกระตุ้นและส่งเสริมเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวของชายหาดพัทยาและของประเทศให้กลับมาคึกคัก สร้างรายได้จำนวนมากเข้าสู่ประเทศต่อไป
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น แน่นอนส่วนหนึ่งมาจากธรรมชาติ แต่อีกนัยหนึ่งก็วางจากการวางแผนที่ผิดพลาดของผู้นำ ซึ่งเพจ PattayaWatchdog เผยว่าเป็นเพราะนายกเมืองพัทยา ดันทุรังจะก่อสร้างทางระบายน้ำฝนถนนชายหาดลงทะเลโดยตรง ไม่สนเสียงคดค้านจากภาคประชาชนที่ไม่เห็นด้วย เนื่องจากจะเกิดผลกระทบขึ้นกับหน้าทราย ที่อาจถูกกัดเซาะ ทั้งๆ ที่หาดทรายผื่นนี้เพิ่งผ่านโครงการเสริมสร้างชายหาด หรือบีชนอริชเม้นท์ มูลค่า 500 ล้านบาท เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
การเกิดน้ำท่วมขังรอการระบายในเมืองพัทยา ที่เกิดขึ้นหลังจากฝนตกหนักวานนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำพัทยาต้องกลายเป็นเมืองบาดาล เพราะเมื่อปี 2558 เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยสาเหตุหลักของการเกิดน้ำท่วมขังไม่ใช่เฉพาะเมืองพทัยา แต่รวมถึงเมืองใหญ่นั้น ส่วนใหญ่มาจากขยะ ที่ไปอุดตันท่อระบายน้ำ
และอีกอย่างคือการขยายตัวของเมือง ที่เต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือน จนทำให้ขนาดคลองที่ใช้ในการระบายน้ำมีขนาดแคบเล็กลง รวมถึงพื้นดินที่เป็นที่ดูดซับน้ำ ถูกแทนที่ด้วยซีเมนท์เต็มไปหมด น้องน้ำที่มาจากฝนจึงไม่รู้จะไปทางไหนจึงเอ่อล้นเกิดเป็นภาพน้ำท่วมสูงอย่างที่เห็น การแก้ปัญหาน้ำท่วมพัทยา แม้จะขุดสารพัดวิธี ทุ่มงบประมาณจำนวนมากดูแล้วคงแก้ไม่ได้ หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สนใจการจัดวางผังเมือง และการยับยั้งการเติบโตของเมืองเหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
ขอบคุณภาพจาก พัทยา-รู้ยัง