Cr.EPA/WestMinCom
คนร้ายก่อเหตุระเบิด ถล่มโบสถ์คาทอลิก บนเกาะโจโล มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ศพ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อเวลา 08.45 น. ของวันที่ 27 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 07.45 น.ตามเวลาไทย เกิดเหตุระเบิด 2 ครั้ง บริเวณโบสถ์คริสต์ “Our Lady of Mount Carmel” ในเขตเทศบาลเมืองโจโล จังหวัดซูลู บนเกาะโจโล โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังยึมีการลงประชามติรับรองให้เกาะมินดาเนา ปรับสถานะเป็นเขตปกครองตนเองที่เรียกว่า “เขตปกครองบังซาโมโร” ได้เพียงวันเดียว
ระเบิดลูกแรกเกิดขึ้นระหว่างที่ชาวฟิลิปปินส์ที่นับถือศาสนาคริสต์ กำลังร่วมสวดมนต์ประจำวันอาทิตย์ที่โบสถ์ และเมื่อเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก็เกิดระเบิดครั้งที่สองตามมา
โดยคาดว่าตัวระเบิดถูกซุกอยู่ในกล่องใส่ของบนรถมอเตอร์ไซค์ ที่จอดอยู่ใกล้ประตูทางเข้าโบสถ์ โดยหลังเกิดเหตุ สภาพภายในโบสถ์ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด สัญญาณโทรศัพท์ถูกตัดขาด มีเศษไม้ เศษกระจกหน้าต่างแตกกระจายเกลื่อนพื้น
ส่วนทางด้านนายออสการ์ อัลบายัลเด ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า เหตุระเบิดครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ศพ เป็นพลเรือน 15 ราย ทหาร 5 นาย และได้รับบาดเจ็บ 81 ราย แบ่งเป็นพลเรือน 65 คน ตำรวจ 2 นาย และทหารอีก 14 นาย
แม้ในเบื้องต้นยังไม่มีกลุ่มใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ แต่ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต แถลงการณ์ว่า รัฐบาลจะตามล่าผู้ก่อเหตุมาลงโทษให้ได้ เพราะกฎหมายจะไม่ให้ความปรานีกับคนพวกนี้ พร้อมประนามผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ว่า เป็นการกระทำของกลุ่มก่อการร้าย
อย่างไรก็ตาม นายมูจีฟ ฮาตามัน ผู้ว่าการเขตปกครองตนเองบังซาโมโร เผยว่า เหตุระเบิดครั้งนี้ ตอกย้ำให้ทางการเร่งผลักดันกฎหมายสันติภาพโดยด่วน เพราะเชื่อว่าอาจจะช่วยหยุดการขยายตัวของกลุ่มก่อการร้ายได้