สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เชิญผู้แทนของพรรคการเมือง 7 พรรค ได้แก่ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังประชารัฐ พรรคอนาคตใหม่ พรรคภูมิใจไทย พรรคเสรีรวมไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา เข้าร่วมหารือถึงการจัดหาสถานที่ประชุมรัฐสภา
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการจัดหาสถานที่สำหรับประชุมรัฐสภาเป็นการชั่วคราว ระบุว่า ผู้รับเหมาได้แจ้งว่า การก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยเฉพาะห้องประชุมสุริยันต์ หรือ ห้องประชุม ส.ส. จะแล้วเสร็จในเดือนกันยายนนี้ แต่จากภาพรวมที่เห็นในขณะนี้ เชื่อว่าไม่น่าจะเสร็จทันตามกำหนดและอาจจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้
ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องหาสถานที่ในการประชุมรัฐสภาและประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นการชั่วคราวก่อน โดยต้องรับฟังความคิดเห็นของพรรคการเมืองที่มี ส.ส.ในสภา เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจน ซึ่งเบื้องต้นได้เตรียมห้องภายในอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ไว้เป็นที่รายงานตัวของ ส.ส.แล้ว แต่สำหรับสถานที่ประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีอาจจะต้องใช้สถานที่อื่นเพราะการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ
ส่วนกรณีปัญหาเรื่องของสูตรคำนวณ ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อนั้น ประธาน สนช. ระบุว่า เรื่องนี้ต้องให้ กกต. เป็นผู้ชี้แจง
เกร็ดความรู้ : เอกสิทธิ์ของสมาชิกรัฐสภา
เอกสิทธิ์ของสมาชิกรัฐสภา หมายถึง สิทธิพิเศษตามกฎหมาย ที่ให้อิสระในการพูด การอภิปราย หรือการดำเนินการใดๆ ในรัฐสภาระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ถือเป็นเอกสิทธิ์เด็ดขาด โดยบุคคลอื่นมิอาจนำไปฟ้องร้องว่ากล่าวในทางใดๆ เพื่อเป็นการประกันหรือคุ้มครองการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด และเอกสิทธิ์นี้จะมีอยู่ตลอดไปถึงแม้สมาชิกจะพ้นสมาชิกภาพไปแล้วก็จะนำมาฟ้องร้องไม่ได้
ทั้งนี้เอกสิทธิ์จะไม่คุ้มครองถึงกรณีที่สมาชิกรัฐสภากล่าวถ้อยคำในการประชุมที่มีการถ่ายทอดทางวิทยุกระจายเสียงหรือวิทยุโทรทัศน์ หากถ้อยคำที่กล่าวนั้นไปปรากฏนอกบริเวณรัฐสภา และการกล่าวถ้อยคำนั้นมีลักษณะเป็นความผิดทางอาญาหรือละเมิดสิทธิในทางแพ่งต่อบุคคลอื่นซึ่งมิใช่รัฐมนตรีหรือสมาชิกแห่งสภานั้น