ประเด็นน่าสนใจ
- ศบศ. มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” เป็นการลดหย่อนภาษี
- เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ สนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษี ส่งเสริมการผลิตสินค้าท้องถิ่น
- สำหรับค่าซื้อสินค้าและบริการให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันไม่เกิน 30,000 บาท
วานนี้ (7ต.ค.63) ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ภายใต้มาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ สนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษี ส่งเสริมการผลิตสินค้าท้องถิ่น และส่งเสริมการอ่าน
มาตรการดังกล่าวจะเป็นการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีภาษี 2563 สำหรับค่าซื้อสินค้าและบริการให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันไม่เกิน 30,000 บาท กลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กลุ่มผู้ประกอบการประเภทผู้ค้าสินค้าและบริการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และผู้ประกอบการขายหนังสือและสินค้า OTOP โดยไม่รวมสินค้าเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ยาสูบ สลากกินแบ่งรัฐบาล น้ำมัน ค่าที่พัก และค่าตั๋วเครื่องบิน
สำหรับมาตรการดังกล่าวจะมีระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค.-31 ธ.ค.63 เพื่อใช้ลดหย่อนภาษีในปีภาษี 2563 ณ เดือน มี.ค. 64 คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเนื่องจากการดำเนินมาตรการทั้งหมด 55,500 ล้านบาท ทั้งนี้ หากประชาชนได้ใช้สิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือโครงการคนละครึ่งแล้วจะไม่สามารถใช้สิทธินี้ได้
นอกจากนี้ ศบศ.ยังเห็นชอบการปรับปรุงมาตรการเราเที่ยวด้วยกัน และมาตรการกำลังใจ ตามการเสนอโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยอนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการ “กำลังใจ” และ “เราเที่ยวด้วยกัน” ไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค.64
และอนุมัติให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” สามารถใช้บริการโรงแรมที่พัก และใช้ E-Voucher สำหรับค่าสนับสนุนอาหาร ค่าเข้าชมแหล่งท่องเที่ยว ค่าสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ในจังหวัดภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านได้ รวมทั้งอนุมัติให้เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร จำนวน 570 คน และเจ้าหน้าที่หัวหน้างานสาธารณสุขมูลฐาน และงานสุขภาพภาคประชาชน ระดับจังหวัด และระดับอำเภอ กระทรวงสาธารณสุข จำนวน 2,615 คน ให้สามารถเข้าร่วมโครงการกำลังใจได้
ขณะเดียวกัน ศบศ. ได้อนุมัติการเบิกจ่ายงบประมาณดำเนินโครงการ “กำลังใจ” และ “เราเที่ยวด้วยกัน” ไปจนถึงวันที่ 31 มี.ค.64