กรมชลฯ ขอเกษตรกร ‘งดทำนาปี’ เหตุน้ำในเขื่อนมีน้อย

ประเด็นน่าสนใจ

วานนี้ (6 ต.ค.63) นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ นักษาราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานการประชุมอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ

โดยกรมชลประทานได้เตรียมความพร้อม เฝ้าระวังติดตามปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศ พร้อมบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม ซึ่งจากข้อมูลภาพรวมปริมาณน้ำต้นทุนยังอยู่ในเกณฑ์น้อย จึงขอให้เกษตรกรที่ทำการเก็บเกี่ยวข้าวนาปีไปแล้วงดทำนาปีต่อเนื่อง เพื่อสำรองน้ำในอ่างเก็บน้ำไว้ให้ได้มากที่สุด เพียงพอใช้ตลอดฤดูแล้งปี 63-64

สำหรับปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งประกอบด้วย เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ข้อมูลวันที่ (6 ต.ค.63) มีปริมาณน้ำรวมกัน 11,663 ล้าน.ลบ.ม. หรือประมาณ 47% ของความจุอ่างเก็บน้ำ ปริมาณน้ำใช้การได้ 4,967 ล้าน.ลบ.ม. หรือประมาณ 27% ของความจุน้ำที่ใช้การได้

ภาพรวมสถานการณ์ น้ำในประเทศไทย

แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา ปริมาณน้ำฝนจะมีตกสะสมในหลายพื้นที่ แต่ส่วนใหญ่กระจายอยู่ในพื้นที่ใต้เขื่อนเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาจึงไม่ได้ถูกกักเก็บลงในเขื่อนตามที่คาดการณ์ไว้

นอกจากนี้จากสถานการณ์ในช่วงฤดูแล้งที่ผ่านมาทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนหลายแห่ง มีปริมาณน้ำที่น้อยกว่าปรกติอย่างมาก เช่น น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ นั้นมีปริมาณน้ำในช่วงเดือน ก.ค. 2563 นั้น ระดับน้ำติดลบ 11 % และเพิ่งจะมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของฤดูฝน