ประเด็นน่าสนใจ
- เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๓ ประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรี
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง อาคม เติมพิทยาไพสิฐ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
- เป็นการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแทนตำแหน่งที่ว่าง เพื่อความเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน
วันนี้ (5 ต.ค.63) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๓ ประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรี
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ ๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๒ แล้ว และแต่งตั้งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดิน ตามประกาศลงวันที่ ๑๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ และประกาศครั้งสุดท้ายลงวันที่ ๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓ นั้น
บัดนี้ นายกรัฐมนตรีได้กราบบังคมทูลว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ลาออกจากตำแหน่งสมควรแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแทนตำแหน่งที่ว่าง เพื่อความเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๕๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓ เป็นปีที่ ๕ ในรัชกาลปัจจุบัน
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี
ประวัติ :
นาย อาคม เติมพิทยาไพสิฐ ระดับปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปี 2520 และระดับปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์ จากวิทยาลัยวิลเลียม ประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยได้เข้ารับราชการในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผ่านตำแหน่งสำคัญ ๆ เช่น
- ผู้อำนวยการกองวิเคราะห์และประมาณการเศรษฐกิจ
- เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน ระดับ 9 ชช.
- ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
- ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (2546-2547)
- รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
- เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
- รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
ซึ่งการเข้ารับตำแหน่งในครั้งนี้ ถือเป็นการเข้ามารับตำแหน่งท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังรุมเร้าในหลาย ๆ ด้านอย่างมาก จึงเป็นสิ่งที่ท้าทาย รมต. กระทรวงการคลังคนใหม่อย่างมาก