Watch Dog Thailand กรมปศุสัตว์ ฟาร์มสุนัข

ปศุสัตว์บุกช่วยสุนัขกว่า 40ตัว แฉที่เลี้ยงไม่เหมาะสมแถมเพาะขายด้วย

รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ร่วมกับทาง Watch Dog Thailand บุกช่วยสุนัขกว่า 40ตัว เผยสถานที่เลี้ยงไม่เหมาะสม แถมเพาะสุนัขส่งขาย วันนี้ (5 เม.ษ.62) ที่ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี…

Home / NEWS / ปศุสัตว์บุกช่วยสุนัขกว่า 40ตัว แฉที่เลี้ยงไม่เหมาะสมแถมเพาะขายด้วย

รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ร่วมกับทาง Watch Dog Thailand บุกช่วยสุนัขกว่า 40ตัว เผยสถานที่เลี้ยงไม่เหมาะสม แถมเพาะสุนัขส่งขาย

วันนี้ (5 เม.ษ.62) ที่ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ร่วมกับทาง Watch Dog Thailand เดินทางไปแจ้งความเอาผิด นายศักดินนท์ บุญพิทักษ์ อายุ 66 ปี เจ้าของฟาร์มสุนัขบางบัวทอง ในพื้นที่ ม.5 ต.โสนลอย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งเพาะพันธุ์สัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต และยังละเมิดกฎหมายการจัดสวัสดิภาพสัตว์หลายประการ

ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยเข้าช่วยเหลือสุนัขในฟาร์มมาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อปี 61 และเดือนมกราคม ปี 62 และมีการเซ็นต์สัญญาว่าจะไม่เอาสุนัขมาเพาะพันธุ์จำหน่ายอีก แต่เพจ Watch Dog Thailand สืบทราบข้อมูลว่าทางเจ้าของฟาร์มละเมิดสัญญา

โดยไปรับสุนัขที่มีการประกาศหาบ้านทางโซเชียล มาเพาะพันธุ์อย่างไม่ถูกต้องอีก โดยรองอธิบดีกรมปศุสัตว์จะไปแจ้งความด้วยตัวเอง และมีพยานที่เคยพบเห็นการละเมิดข้อตกลงของเจ้าของฟาร์ม เดินทางไปเป็นพยานในการครั้งนี้ด้วย

จากการสอบถาม น.ส.ศิริการณ์ จั่นเพ็ชร เจ้าของสุนัขพันธุ์บางแก้ว เปิดเผยว่า วันนี้ได้เดินทางมาในฐานะพยาน เนื่องจากช่วงเดือนมกราคม 62 ได้ประกาศขอคนใจบุญรับสุนัขพันธุ์บางแก้วของตนไปเลี้ยงต่อผ่านเว็บไซต์แห่งหนึ่ง เนื่องมีปัญหาเรื่องการเลี้ยงและพื้นที่ไม่สะดวกต่อการเลี้ยง จนนายศักดินนท์ เจ้าของฟาร์มสุนัข ได้ติดต่อมาและขอมารับเองที่บ้าน

โดยในช่วงติดต่อเจรจา นายศักดินนท์ ระบุว่าสถานที่เลี้ยงมีพื้นที่กว้างขวางและดูแลเป็นอย่างดี จึงตกลงให้นายศักดินนท์ รับไปเลี้ยง ช่วงที่รับไปเลี้ยงตนได้ติดต่อกับทางเจ้าของฟาร์มเป็นระยะๆ เผื่อสอบถามความเป็นอยู่ของสุนัขที่มอบให้ ก็ได้ส่งภาพมาเฉพาะตอนอยู่ในกรงเลี้ยง ซึ่งเมื่อดูจากภาพและสถานที่แล้วพบว่าไม่ตรงกับที่ระบุไว้ตอนแรก จึงติดต่อขอรับสุนัขคืนทางเจ้าของฟาร์มก็ได้บ่ายเบี่ยงและติดต่อไม่ได้ จนจึงประสานงานไปกับทางเพจ Watch Dog Thailand กระทั่งนำตัวสุนัขคืนมาได้ โดยทางเจ้าของฟาร์มของค่าเลี้ยงดู 1,000 บาท จึงได้สุนัขคืนมา

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่จากกรมปศุสัตว์พร้อมด้วยตำรวจ สภ.บางบัวทอง ได้ทำการล่อซื้อสุนัขจากนายศักดินนท์ จนมีการตกลงซื้อขายสำเร็จ ทางเจ้าหน้าที่จึงบุกค้นที่ฟาร์มของนายศักดินนท์ทันที เบื้องต้นพบว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นคันนา ยาวไปประมาณ 100 เมตร มีการต่อเติมทำหลังคาด้วยสังกะสี ด้านในมีกรงสุนัข และกรงนกเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบว่ามีสุนัขทั้งสิ้น 48 ตัว และยังพบว่าไม่มีการฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขที่เลี้ยงไว้ พร้อมไม่มีเอกสารประกอบการรักษาแต่อย่างใด โดยมีแค่ใบอนุญาตค้าสัตว์เท่านั้น

ทางด้าน นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในวันนี้พบการกระทำผิดคือ 1. ผิดใน พ.ร.บ.โรคพิษสุนัขบ้า เนื่องจากเจ้าของฟาร์มไม่มีเอกสารประวัติการรักษาดูแลสุนัขและประวัติการฉีดวัคซีน 2.กฎหมายทารุณกรรมสัตว์ เนื่องจากได้นำสุนัขและลูกสุนัขไปจำหน่าย เป็นการแสวงหาผลประโยชน์จากสัตว์ ทั้งที่ไม่ได้เป็นฟาร์มเพาะเลี้ยงขายโดยตรง 3.ผิดในข้อกฎหมายสวัสดิภาพสัตว์ ซึ่งพบว่าสุนัขที่นำไปแสวงหาผลประโยชน์ มีการเลี้ยงดูอย่างไม่ทุกต้องตามหลักสุขลักษณะ

จากลักษณะของสถานที่เลี้ยงเช่นนี้ ประกอบกับทางเจ้าของก็ได้ระบุชัดเจนว่าได้นำสุนัขส่งขายด้วย ด้วยสถานที่การเลี้ยงที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ได้สุนัขที่เป็นโรคและเสี่ยงที่จะไปแพร่เชื้อโรคในแหล่งตลาดซื้อขาย หรือสถานที่ที่ผู้ซื้อรับไปเลี้ยง จึงทำให้เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งจะอายัดสุนัขทั้งหมดส่งไปตรวจสอบ และแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป