น้องชมพู่

สรุปความคืบหน้าคดี “น้องชมพู่” – 2 ต.ค. 63

ผบ.ตร. แถลงคดีน้องชมพู่ ระบุ ยังไม่มีพยานหลักฐานมัดตัวที่เชื่อได้ว่า ใครได้ แต่ยืนยันว่า น้องชมพู่ขึ้นไปเองไม่ได้

Home / NEWS / สรุปความคืบหน้าคดี “น้องชมพู่” – 2 ต.ค. 63

ประเด็นน่าสนใจ

  • ยังไม่มีการออกหมายจับใด ๆ และยังไม่มีหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้ใด
  • น้องชมพู่ไม่สามารถเดินขึ้นไปยังจุดที่พบศพได้เอง
  • สาเหตุการเสียชีวิตมาจากการขาดน้ำและอาหาร
  • ไม่มีร่องรอยการล่วงละเมิดทางเพศ ไม่บาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต
  • คดียังคงดำเนินต่อไป ในกรอบอายุความ 20 ปี โดยในขณะนี้มีรายชื่อผู้ต้องสงสัยแล้ว มีพยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว หากมีหลักฐานเชื่อมโยงมัดตัวผู้ก่อเหตุก็จะดำเนินการทัน
  • เชื่อว่า จากพฤติกรรมของน้องชมพู่ และพฤติการที่จะทำให้เกิดเหตุนี้ได้ ต้องเป็นผู้ที่รู้จักสถานที่ เป็นคนใกล้ชิด

หลังจากเป็นคดีมายาวนานกว่า 4 เดือน หลังจากการหายไปของน้องชมพู่ หรือด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา อายุ 3 ปี จากบ้านที่พักอาศัย ในหมู่2 บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ก่อนจะพบว่า เสียชีวิตอยู่บนภูเหล็กไฟ

ซึ่งข่าวนี้ หลายฝ่ายให้ความสสนใจเป็นอย่างมาก กับคดีที่เกิดขึ้น เนื่องจากยังไม่สามารถหาผู้กระทำความผิดได้ โดยในวันนี้ ทาง ผบ. ตร. คนใหม่ ได้มาแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับคดีน้องชมพู่ โดยสรุป มีรายละเอียด

สรุปไทม์ไลน์เหตุการณ์คดีน้องชมพู่

  • 11 พ.ค. – น้องชมพู่หายตัวไปจากบ้าน
  • 12 – 13 พ.ค. – ทำการค้นหาน้องชมพู
  • 14 พ.ค. (บ่าย) – มีผู้พบเบาะแส เป็นรองเท้าเด็กสีเขียว
  • 14 พ.ค. (19.00) – พบร่างน้องชมพู่ อยู่ห่างจากบ้านไปราว 2 กม. บนเขาภูเหล็กไฟ สภาพนอนหงาย เปลือยกาย เสียชีวิตอยู่ พบกางเกงถอดไว้อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ
  • 15 พ.ค. – ผลการชันสูตร โดย รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานีออก ระบุ ไม่มีร่องรอยถูกทำร้ายหรือการล่วงละเมิดทางเพศ มีเพียงบาดแผลขีดข่วน แมลงเจาะ
  • 17 พ.ค. – ครอบครัว ขอชันสูตรซ้ำ
  • 18 พ.ค. – รายงานข่าวของทาง นิติเวช รพ. ตำรวจ ระบุว่า มีร่องรอยบาดแผลที่ตัวและอวัยวะเพศ จุดนี้ทำให้หลายฝ่ายสับสน ก่อนจนท. ชี้แจงว่า เป็นรอยแผลจากการกระแทกจากของแข็ง ไม่ใช่การร่วมเพศ
  • 20 พ.ค. – ฌาปนกิจร่าง น้องชมพู่
  • ระหว่างปลายเดือน พ.ค. – ก.ค. – เป็นการสอบสวนหา หาข้อมูลเพิ่มเติม (สอบปากคำ-ตรวจ DNA กลุ่มผู้ต้องสงสัย – หาวัตถุพยานเพิ่ม)

ปมจุดเสียชีวิต

น้องชมพู่ ไม่สามารถเดินทางขึ้นไปยังจุดที่พบศพ ได้ด้วยตนเอง เนื่องจาก

  • เส้นทางที่ยากลำบาก, ไม่สามารถมีแรงพอจะขึ้นไปได้
  • อาหารมื้อเช้า ไม่เพียงพอให้พลังงานเดินไปได้ในระยะนั้น
  • น้องชมพู่ยังถอดเสื้อเองไม่ได้ ขัดกับการพบร่างน้องที่เปลือยอยู่
  • ที่ระยะ 200 ม. จากบ้านก็ยังสามารถมองเห็นได้ จึงไม่น่าหลงจนกลับไม่ถูก
  • เคสคนหลังจากน้องชมพู่ ก็ยังสามารถค้นหาเจอได้ แม้ว่าไปไกลกว่าน้องชมพู่
  • พบเส้นผมน้องชมพู่ มีรอยมีดตัด ที่น้องไม่สามารถตัดเองได้
  • นิสัยน้องชมพู่ กลัวที่มืด กลัวป่า ไม่กล้าคืนไปยังบนภูเหล็กไฟได้


ปมผลการสอบสวนทางนิติวิทยาศาสตร์

ผลการพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยสรุป

  • พบแผลใดที่เป็นอันตรายถึงชีวิต
  • ไม่มีร่องรอยถูกทำร้าย
  • ไม่มีร่องรอยการล่วงละเมิด
  • คาดเสียชีวิตจากขาดน้ำ เนื่องจากวิเคราะห์พบว่า ผิวแห้งกว่าปรกติ
  • ส่วนของเหลวในกระเพาะคือ เป็นภาวะเน่าจากศพได้ จึงไม่ยืนยันว่าเป็นอาหาร

– พบแผลใดที่เป็นอันตรายถึงชีวิต- ไม่มีร่องรอยถูกทำร้าย- ไม่มีร่องรอยการล่วงละเมิด- คาดเสียชีวิตจากขาดน้ำ เนื่องจากวิเคราะห์พบว่า ผิวแห้งกว่าปรกติ- ส่วนของเหลวในกระเพาะคือ เป็นภาวะเน่าจากศพได้ จึงไม่ยืนยันว่าเป็นอาหาร


เพิ่มเติม การชันสูตรพลิกศพ

ครั้งแรก – โรงพยาบาลดงหลวง เป็นการตรวจสอบภายนอกเบื้องต้น ก่อนส่งต่อให้ รพ. สรรพสิทธิประสงค์

ครั้งที่ 2 – แผนกนิติเวช โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี

โดยมีการนำร่างน้องชมพู่ ส่งมาถึง รพ. ในวันที่ 15 พ.ค. 63 โดยร่างอยู่ในลักษณะเน่า แต่ยังสามารถดำเนินการพิจูจน์ ได้ โดย ผลการชันสูตรครั้งแรก

  • ไม่พบร่องรอยการล่วงละเมิดทางเพศ มีเยื่อพรหมจรรย์สมบูรณ์
  • ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด กระโหลกปรกติ ไม่ร้าว ไม่มีร่องรอยคอหักหรือฟกช้ำ
  • มีเพียงรอยขูดขีด ซึ่งคาดว่าจะเกิดจากกิ่งไม้ บริเวณแผ่นหลัง เหนือข้อเท้า และรอยมด-แมลงเจาะ
  • ในกระเพาะ มีของเหลวอยู่ส่วนหนึ่ง อวัยวะส่วนใหญ่เน่า ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้

ครั้งที่ 3 – สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ

เนื่องจากมีกระแสความไม่เชื่อในผลการพิสูจน์ของ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี จึงได้มีการร้องขอให้มีการนำร่าง น้องชมพู่มาชันสูตรเพิ่มที่ สถาบันนิติเวชฯ รพ. ตำรวจ โดยผลการชันสูตร ระบุว่า ในวันที่ 18 มีรายงานของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ จาก รพ.ตำรวจ ได้ชันสูตรเพิ่ม และมีรายงานที่ต่างไป โดยระบุว่า มีร่องรอย-บาดแผลตามร่างกายและอวัยวะเพศ ในจุดนี้ ผลการพิสูจน์ พบว่า เป็นรอยที่เกิดขึ้นจากการโดนของแข็ง กระแทก ไม่ใช่เกิดจากการร่วมเพศ ไม่พบอสุจิ-สารคัดหลั่งใด ๆ


ปมช่วงเวลาการเสียชีวิต

ผลการสอบสวนพบว่า น้องชมพู่เสียชีวิตในช่วงวันที่ 12 พ.ค. เวลา 14.30 น. – 13 พ.ค. เวลา 14.30 น. โดยได้ประเมิน

  • น้องหายตัวไป 11 พ.ค. เวลา 09.11 น. – 09.49 น.
  • วิเคราะห์หนอน ( 15 พ.ค. ) อยู่ในระยะ 3 คาดว่า มีการวางไข่ 3 วัน
  • บนภูเหล็กไฟ ทดสอบเนื้อหมู พบว่า เน่าเร็วกว่า นำทั้งหมดมาประเมินเวลาเสียชีวิต

ปมพยานหลักฐาน

มีการเก็บพยานหลักฐานที่สำคัญไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในขณะนี้ยังคงเปิดเผยไม่ได้ ซึ่งได้บรรจุในสำนวนไว้แล้ว ครบถ้วนในทุกมิติ

  • สอบปากคำไปทั้งหมด 384 ปาก
  • นำเข้าสำนวน 120 ปาก
  • ผู้เชี่ยวชาญ 13 ปาก
  • DNA 154 ตัวอย่าง
  • วัตถุพยาน 113 ชิ้น
  • มีรายชื่อผู้ต้องสงสัยแล้ว

ซึ่งหากมีพยานหลักฐานเชื่อมโยง-มัดตัวผู้ต้องสงสัยได้ ก็จะดำเนินการทันที


สรุป :

  • คดียังไม่สิ้นสุด และยังไม่สามารถหาหลักฐานเชื่อมโยงมัดตัวผู้ก่อเหตุได้
  • แม้ว่าจะมีรายชื่อผู้ต้องสงสัย – พยานหลักฐานที่เก็บไว้พร้อมแล้ว
  • น้องชมพู่ ไม่ได้หลงป่า ไม่ได้เดินไปเอง มีผู้กระทำ/พาไปอย่างแน่นอน
  • แรงจูงใจ – มูลเหตุจูงใจ ยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานมัด-เชื่อมโยงผู้ต้องสงสัยรายใด