กระทรวงการต่างประเทศเผย ‘ธนาธร’ เป็นผู้เชิญเจ้าหน้าที่ทูต 11 ประเทศไปสังเกตการณ์ระหว่างรับทราบ 3 ข้อกล่าวหาที่สถานีตำรวจปทุมวัน
วันที่ 7 เม.ย. 2562 น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยถึงกรณีที่มีผู้แทนของสถานเอกอัครราชทูตและองค์กรระหว่างประเทศกว่า 11 ประเทศไปร่วมรับฟังการรับทราบข้อกล่าวหาที่สถานีตำรวจปทุมวัน ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา
โดย น.ส.บุษฎีระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ติดตามข่าวดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้มีหลายภาคส่วนแสดงความวิตกกังวลมายังกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นทราบว่าคณะทูตและผู้แทนองค์การระหว่างประเทศที่ไปปรากฏตัวในวันนั้นเป็นเพราะได้รับเชิญจากธนาธรเอง
ทั้งนี้จากกรณีการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาของนายธนาธร สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีรายงานการออกหมายเรียกนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ระบุถึงข้อกล่าวหาในคดีอาญาที่ 691/2558 คสช. กล่าวหา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 โดยเหตุเกิดหน้า สน.ปทุมวัน กทม. เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2558 ในเวลา 22.00 น.
สำหรับพฤติการณ์แห่งคดีที่ทำให้นำไปสู่การออกหมายจับดังกล่าว เนื่องจากคืนก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2558 นายรังสิมันต์ โรมและพวกรวม 7 คน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหารกรุงเทพ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 รับทราบข้อกล่าวหา แต่เมื่อมาถึง สน.ปทุมวันผู้ต้องหากับพวกไม่ยอมเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยรออยู่บริเวณใกล้เคียง สน.ปทุมวัน หลังจากนั้นได้มีกลุ่มบุคคลให้การช่วยเหลือกลุ่มผู้ต้องหาโดยการนำรถตู้สีขาวพากลุ่มผู้ต้องหาหลบหนี
และเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทะเบียนรถตู้คันดังกล่าวพบว่าเป็นรถของบริษัทที่มีนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธร เป็นกรรมการ นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่า ในวันดังกล่าวนายธนาธรได้มาอยู่ที่ สน.ปทุมวัน กับนายรังสิมันต์ และพวกด้วย คณะ คสช. จึงมอบอำนาจให้ พันเอก บุรินทร์ ทองประไพร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนายธนาธร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และ 189 เพื่อให้ได้รับโทษตามกฎหมาย
รู้จักมาตรา 166
สำหรับมาตรา ๑๑๖ ระบุว่าผู้ใดกระทําให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอัน มิใช่เป็นการกระทําภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต
- เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กําลังข่มขืนใจ หรือใช้กําลังประทุษร้าย
- เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อ ความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร
- เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินเจ็ดปี”อย่างไรก็ตามสำหรับคำบรรยายข้อกล่าวหานายธนาธร สะท้อนว่าตำรวจได้ตั้งข้อหาเขาอย่างน้อย 2 ฐานความผิดได้แก่
1. ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116(2) (3) ยุยงปลุกปั่นฯ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และ
2. ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ให้ที่พักพิงผู้ต้องหา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ