ข่าวสดวันนี้ ถือมีดเดินเข้าหาปืน ถูกยิง

หนุ่มใหญ่ถือมีดเดินเข้าหาชายถือปืน โดนยิงสวนหมดโม่ ดับคาที่

ที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เกิดเหตุหนุ่มใหญ่ถือมีดเดินเข้าหาชายถือปืน โดนยิงสวนจนหมดโม่ ดับคาที่ เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2562 เฟซบุ๊ก อรรถยุทธ พวงสุวรรณ ได้เผยแพร่คลิปวีดีโอที่มีชาย 2…

Home / NEWS / หนุ่มใหญ่ถือมีดเดินเข้าหาชายถือปืน โดนยิงสวนหมดโม่ ดับคาที่

ที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เกิดเหตุหนุ่มใหญ่ถือมีดเดินเข้าหาชายถือปืน โดนยิงสวนจนหมดโม่ ดับคาที่

เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2562 เฟซบุ๊ก อรรถยุทธ พวงสุวรรณ ได้เผยแพร่คลิปวีดีโอที่มีชาย 2 คนคล้ายกับกำลังมีปากเสียงทะเลาะกัน โดยชายที่ใส่เสื้อสีขาวถือมีดและชายที่ถอดเสื้อถือปืนอยู่ จากนั้นชายคนที่ถือปืนได้เดินเข้าไปหาชายคนที่ถือมีดและยิงปืนรัวเข้าใส่ชายคนที่ถือมีดไม่ยั้งจนเสียชีวิตในที่สุด ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวเดิกขึ้นที่ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี

ขณะที่มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่กล่าวว่าลักษณะการยิงเช่นนี้ไม่ใช่การป้องกันตัว ซึ่งการเดินเข้าไปหาคู่กรณีและยิงใส่ตัวถือเป็นการเจตนา แต่หากยิงใส่ขาหรือแขนจะถือว่าป้องกันตัวได้

อย่างไรก็ตามทุกคนมีสิทธิป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่นได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 ซึ่งบัญญัติว่า “ผู้ใดจำต้องกระทำการเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่นให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้าย อันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้น เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด”

หลักเกณฑ์ ของการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย

1. มีภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย คือ

  • ภยันตรายที่เกิดขึ้นนั้นผู้กระทำไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะกระทำได้ หากผู้กระทำมีอำนาจที่จะกระทำได้ ก็ไม่มีสิทธิป้องกัน
  • ผู้ที่จะอ้างป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายนั้น จะต้องไม่มีส่วนผิดในการก่อให้เกิดภยันตรายขึ้นด้วย แต่ถ้าผู้จะอ้างป้องกันนั้น มีส่วนก่อให้เกิดภยันตรายนั้น ก็ไม่สามรถอ้างป้องกันได้

2. ภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายนั้น จะต้องเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง คือ ภยันตรายที่เกิดขึ้นนั้นกระชั้นชิดถึงขนาดที่หากไม่ป้องกันตัวในขณะนั้น ก็อาจจะเกิดอันตรายแก่ตนเองหรือผู้อื่นได้

3. ผู้กระทำจำต้องกระทำการเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่น ให้พ้นจากภยันตรายนั้น

4. การกระทำเพื่อป้องกันนั้น จะต้องกระทำพอสมควรแก่เหตุ คือ

  • การกระทำเพื่อป้องกันนั้น จะต้องได้สัดส่วนกับภยันตรายที่เกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายนั้น เช่น ภยันตรายที่เกิดขึ้นจากการถูกตบหน้า จะป้องกันโดยใช้ปืนยิง ถือว่าไม่ได้สัดส่วนกัน
  • การกระทำเพื่อป้องกันนั้น ถ้าผู้กระทำได้ใช้วิถีทางน้อยที่สุดที่จะทำให้เกิดอันตรายแล้ว ถือว่ากระทำไปพอสมควรแก่เห

ตัวอย่างคดีที่ถือเป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ

ฎีกาที่ ๒๗๑๗/ ๒๕๒๘ คนตายยืนถือมีดอยู่ห่าง ๒ วา ยังไม่อยู่ในลักษณะพร้อมที่จะฟันทำร้ายจำเลย การที่จำเลยด่วนยิงคนตายไปก่อน เป็นป้องกันจริง แต่เกินสมควรแก่เหตุ